Toyota US ประกาศเปิดตัว GR Corolla อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มีนาคม ตามเวลาสหรัฐอเมริกา เป็นอีกหนึ่งตัวแรงจากสำนัก GAZOO RACING ที่ผ่านการอนุมัติจาก Akio Toyoda หรือที่เรียกกันว่า “Morizo” เพื่อเสริมทัพบรรตาตัวแรงที่ผ่านมือเค้ามาแล้วทั้งสิ้น โดยตั้งใจให้เป็นการกลับมาของ Corolla ที่จะดึงดูดสายตาผู้บริโภคอีกครั้ง ด้วยการทำรถที่เน้นสมรรถนะระดับ Motorsports สะท้อนถึงรุ่นพี่ในอดีตอย่าง TE25 Corolla ที่คว้าชัยจากรายการ WRC ในปี 1973

GR Corolla ใช้พื้นฐานที่พัฒนามาโดยเฉพาะ GA-C ตัวถัง Hatchback 5 ประตู ผลิตจากโรงงาน GR Factory Motomachi ในประเทศญี่ปุ่น แบ่งเป็นรุ่น Core Grade และ Circuit Edition ที่จะตามมาในภายหลัง

(Circuit Edition)

มิติตัวถัง:

  • ความยาว : 4,410 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง : 1,850 มิลลิเมตร
  • ความสูง : 1,480 มิลลิเมตร
  • ฐานล้อ : 2,640 มิลลิเมตร

(Core Edition)

ภายนอก

ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นน้องอย่าง GR Yaris มาเต็มๆ ตั้งแต่กันชนหน้าที่มีกระจังหน้าขนาดใหญ่ พร้อมช่องดักลมเพื่อระบายความร้อนให้กับระบบเบรก มีการติดสัญลักษณ์ GR ที่มุมขวาบนของกระจังหน้า ไฟหน้า LED ยังคงใช้ทรงจากรุ่น 5 ประตู พร้อมไฟตัดหมอก LED ฝากระโปรงหน้ามีเหลี่ยมสันพร้อมเจาะรูระบายความร้อน 2 ข้าง ด้านข้างมาพร้อมมัดกล้ามทั้งซุ้มล้อหน้าขนาดใหญ่ พร้อมเจาะครีบระบายกระแสลมที่ไหลวนจากล้อคู่หน้า และไม่ลืมที่จะติดตั้งสัญลักษณ์ GR ที่ซุ้มล้อทั้งสองข้าง สเกิร์ตข้างขนาดใหญ่ พร้อมปั๊มตัวอักษร “GR-FOUR” ถัดมาที่ประตูหลังจะมีโป่งแปะเพื่อให้รับกับโป่งซุ้มล้อหลังเพื่อรองรับล้อและยาวขนาดใหญ่ขึ้น ด้านหลังติดตั้งสปอยเลอร์

(Circuit Edition)

กันชนหลังติดตั้งดิฟฟิวเซอร์สีดำเงา พร้อมปลายท่อไอเสีย Active exhaust 3 อัน แบบแยก แบ่งเป็น ตรงกลางทรงรีที่ทำหน้าที่เป็นวาล์วเพื่อลดแรงดันไอเสีย และ ทรงกลมอีก 1 คู่ ขนาบข้างเป็นท่อไอเสียปกติ ไฟท้ายแบบ LED และสัญลักษณ์ GR Corolla ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลาย 15 ก้าน

สำหรับรุ่น Circuit Edition ภายนอกเพิ่มสีดำเงาตรงช่องรับลมกันชนหน้า ช่องระบายลมที่กันชนหลัง หลังคา Forged carbon เพื่อลดน้ำหนัก ฝากระโปรงหน้ามีเหลี่ยมสันพร้อมเจาะรูระบายความร้อน 2 ข้าง ติดตั้งสปอยเลอร์บนหลังคาขนาดใหญ่สีดำด้าน

ภายใน
งานออกแบบภายในยังคงอ้างอิงกับ Corolla รุ่นปกติที่ใช้คอนโซลสีดำ แต่มีการติดตั้งเรือนไมล์ TFT ขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว ที่พัฒนามาเพื่อ GR Corolla โดยเฉพาะ ทำให้แสดงข้อมูลต่างๆ เช่น GR meter แรงดันเทอร์โบ ไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์และวัดรอบเครื่องยนต์ พวงมาลัยรูปทรงเดียวกับ GR Yaris หน้าจอกลางระบบสัมผัสแบบใหม่ขนาด 8 นิ้ว พร้อม Apple CarPlay® และ Android Auto พร้อมลำโพงจำนวน 6 ชิ้น ตกแต่งด้วยสีดำ-เงิน เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ตแบบ Bucket seat หุ้มด้วยผ้า พร้อมสัญลักษณ์ GR แป้นเหยียบอลูมิเนียม หัวเกียร์ GR และด้ามเบรกมือขนาดใหญ่

สำหรับรุ่น Circuit Edition ภายในตกแต่งด้วยสีดำ-แดง ติดตั้งเบาะหุ้มด้วยหนังกลับเดินด้ายสีแดง Brin Naub® พร้อมหัวเกียร์ที่มีลายเซนต์ Morizo และระบบเครื่องเสียง JBL จำนวน 8 ชิ้น พร้อม Amplifier เบาะหน้าและพวงมาลัยพร้อมระบบอุ่น

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

ยกมาจาก GR Yaris แต่ได้รับการจูนใหม่เพื่อรองรับน้ำหนักและขนาดตัวถังที่เพิ่มขึ้น เครื่องยนต์รหัส G16E-GTS เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 1.6 ลิตร 1,618 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 87.5 x 89.7 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1 ฉีดจ่ายน้ำมันแบบ D-4S Direct Injection พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 304 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 3,000-5,550 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ iMT

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ต่ำกว่า 5.5 วินาที

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR-FOUR สามารถแปรผันการกระจายกำลัง หน้า – หลัง ได้ตามโหมดการขับขี่โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่

  • Normal (60 : 40)
  • Sport (30 : 70)
  • Track (50 : 50)

รุ่น Circuit Edition จะติดตั้ง Torsen limited-slip Differentials (LSD) ที่เพลาหน้า-หลัง จากโรงงาน

ระบบบังคับเลี้ยว

ระบบบังคับเลี้ยว เป็นแบบ Rack & Pinion พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า EPS

ระบบกันสะเทือน

  • ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ด้านหลังแบบดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง Michelin Pilot Sport 4 ขนาด 235/40R18

ระบบห้ามล้อ

  • ดิสก์เบรกคู่หน้า พร้อมครีบระบายความร้อน จับคู่กับคาลิปเปอร์ 4 สูบ และจานเบรก ขนาด 14 นิ้ว
  • ดิสก์เบรกคู่หลัง พร้อมครีบระบายความร้อน จับคู่กับคาลิปเปอร์ 2 สูบ และจานเบรก ขนาด 11.7 นิ้ว

รุ่น Circuit Edition จะเพิ่มคาลิปเปอร์เบรกทั้ง 4 ล้อ พ่นสีแดง พร้อมโลโก้ GR

ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่

  • ถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง
  • ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Monitor
  • ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนที่ด้านหลัง Rear Cross-Traffic Alert
  • Toyota Safety Sense™ 3.0 (TSS 3.0) ได้แก่
    • ระบบเตือนการชนพร้อมการตรวจับคนเดินถนน Pre-Collision System with Pedestrian Detection
    • ระบบช่วยบังคับรถเมื่อออกนอกเลน Lane Departure Alert with Steering Assist
    • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beams
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control
    • ระบบอ่านป้ายจราจร Road Sign Assist
    • ระบบรักษาตัวรถให้อยู่ในเลน Lane Tracing Assist
    • ระบบเตือนคนนั่งด้านหลังเวลาดับเครื่อง Rear Seat Reminder

รุ่น Core Grade สามารถเลือกติดตั้งแพ็คเกจเสิรมได้ดังนี้

  • Performance package: Torsen limited-slip Differentials (LSD) ที่เพลาหน้า-หลัง
  • Technology package: ระบบเครื่องเสียงจาก JBL® และที่ชาร์จ Wireless
  • Cold Weather Package: เบาะหน้าและพวงมาลัยพร้อมระบบอุ่น

Toyota GR Corolla มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว และ สีแดง Supersonic ในรุ่น Core และเพิ่มสีสีเทา Heavy Metal ในรุ่น Circuit Edition

กำหนดการวางจำหน่ายรุ่น Core ในช่วงปลายปี 2022 และ รุ่น Circuit Edition ในปี 2023 โดยราคายังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ หากมีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมของการทำตลาดในประเทศไทย ทาง Headlightmag จะนำมารายงานกันอีกครั้ง

ที่มา : Toyota