วิบากกรรม Mitsubishi Motor ทั้งในตลาดโลกและสหรัฐอเมริกายังคงดำเนินกันต่อไปจนกว่าจะถึงจุดที่คลี่คลายสถานการณ์อย่างลงตัวเมื่อใด เมื่อนั้น Mitsubishi ก็มีโอกาสผงาดกวาดเก็บยอดขายอีกครั้งหนึ่ง แต่ระหว่างรอ Mitsubishi จะต้องกวาดเก็บข้าวของที่ไม่จำเป็นออกไปเสียก่อนเพื่อหวังน้ำบ่อใหม่ในอนาคต

บ่อน้ำแห่งใหม่ที่ Mitsubishi Motor คาดหวังสูงมากคือกลุ่มตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กรุ่นใหม่ระดับ Global Project ที่คาดหวังสูงไว้มากว่าจะมาช่วยฉุดยอดขาย Mitsubishi ทั่วโลกให้ฟื้นคืนชีพมาได้บ้าง แน่นอนว่าโครงการดังกล่าวมันก็เป็นรถยนต์คันเดียวกับโครงการอีโคคาร์ในประเทศไทยนั่นเอง

บ่อน้ำแหล่งที่สองก็คือรถครอสโอเวอร์ขนาดย่อม Mitsubishi Outlander Sport หรือ Mitsubishi RVR ที่ทำตลาดในญี่ปุ่น, Mitsubishi ASX ทำตลาดในยุโรป รวมทั้งมีความเป็นไปได้สูงมากว่าอาจจะพัฒนารถเอสยูวีบนพื้นฐาน PX-MIEV Concept อีกด้วย

ในเมื่อ Mitsubishi ไม่อาจมีเงินที่พัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ได้เยอะมากพอที่จะแข่งขันกับคู่แข่งยักษ์ใหญ่ได้ Mitsubishi จำเป็นจะต้องตัดสินค้าที่ดูแล้วไม่มีอนาคตหรือไม่น่าจะต่อยอดสร้างยอดขายเป็นกอบเป็นกำ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่าจะติดสินใจยุบ Mitsubishi Galant ที่ทำยอดขายได้แค่หลักร้อยคันต่อเดือนและ Mitsubishi Eclipse รถสปอร์ตสร้างกล่องประจำแบรนด์ เพราะวิเคราะห์กันแล้วว่าขืนพัฒนารถรุ่นต่อไปก็ไม่ได้ช่วยทำให้ยอดขายดีขึ้นมากมายแต่อย่างใด

เราต้องจับตาดูต่อไปว่า Mitsubishi Motor คิดจะเลิกพัฒนา Galant และ Eclipse ตัวต่อไปอย่างเด็ดขาดหรือคิดจะพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่แบบตัวตายตัวแทนหรือไม่


แต่ที่แน่ ๆ Mitsubishi Motor จะต้องส่งเจ้า i-MIEV ทำตลาดในสหรัฐอเมริกาด้วยแน่นอน  แต่ถ้ามาด้วยสเปคเดียวกับญี่ปุ่นและยุโรปเห็นทีคนอเมริกันก็คงคาใจกับเจ้ารถจิ๋วพลังสีเขียวจนถึงขั้นไม่อยากจะซื้อมันเลยก็ได้

ดังนั้น Mitsubishi จึงต้องจัดการอัพเกรด i-MIEV ให้ต้องตาถูกใจลูกค้าชาวอเมริกันมากกว่าเวอร์ชันญี่ปุ่นและยุโรปยิ่งกว่าใคร ๆ ด้วยการขยายความกว้างขนาดตัวถังตามรสนิยมคนท้องถิ่นที่นิยมรถใหญ่มากกว่า และต้องใส่อุปกรณ์มาตรฐานขั้นพื้นฐานของชาวอเมริกัน ยกตัวอย่างเช่น ครุยส์คอนโทรล, การเชื่อมต่อ Bluetooth, วิทยุผ่านดาวเทียม เป็นต้น

Mitsubishi เตรียมทำตลาด i-MIEV ในตลาดสหรัฐอเมริกาช่วงปลายปี 2011 ด้วยราคาที่คาดกันว่าอยู่ที่ราว 30,000 ดอลลาร์ ยังไม่หักภาษีส่วนกลางอีก 7,500 ดอลลาร์