รถสปอร์ต 2 ประตู รูปแบบ Grand Tourer สุดหรู จาก Lexus ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2017 ในตลาดโลก ทาง Lexus ยุโรปจึงได้ออกรุ่นพิเศษ Hokkaido Edition เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด โดยจำกัดจำนวนเพียง 40 คันต่อรูปแบบตัวถัง เนื่องจาก Lexus LC มีทั้งแบบ Coupe และ Convertible
ชื่อ Hokkaido มาจากเกาะ Hokkaido ที่อยู่ทางตอนเหนือของแดนอาทิตย์อุทัย ที่นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังอย่างภูเขาไฟแล้ว ยังเป็นที่ตั้งสนามทดสอบของ Lexus ชื่อว่า Shibetsu proving ground ที่ซึ่งรถซุปเปอร์คาร์ในตำนานอย่าง LFA ได้ถูกพัฒนาขึ้น ในขณะเดียวกัน เจ้า LC ก็ถูกปรับแต่งและทดสอบอย่างหนักหน่วงโดยผู้เชี่ยวชาญที่ Lexus เรียกว่า Takumi master drivers ในที่แห่งนี้
ในเวอร์ชั่นพิเศษนี้จะมากับสีภายนอกให้เลือกแค่ 4 สี ได้แก่ สีแดง Flare Red สีเงิน Sonic Platinum สีดำ Graphite และสีขาว F SPORT White ล้ออัลลอยลายเฉพาะรุ่น ขนาด 21 นิ้ว กระจังหน้าขนาดใหญ่สีดำ และสำหรับรุ่นเปิดประทุน สามารถเลือกสีหลังคาผ้าใบได้ 2 สี ระหว่าง สีแดง striking red หรือ สีดำ black fabric ในส่วนไฟหน้า-ไฟท้ายที่มีดีไซน์ล้ำสมัยและภายนอกส่วนอื่นๆ ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ภายในมาพร้อมกับความสปอร์ตยิ่งขึ้น เนื่องจากใช้โทนสีดำและสีแดง dark rose ผสมกับวัสดุสีเงินตามจุดต่างๆ โดยมีการเน้นสีแดงไปที่แผงประตูฝั่งผู้ขับขี่ ในขณะที่ฝั่งผู้โดยสารจะใช้สีดำเป็นหลัก เป็นการสื่อถึงความร้อนแรงจากภูเขาไฟที่ระเบิดลาวาออกมา ด้วยสีแดงนั่นเอง
แน่นอนว่ารอบๆ ภูเขาไม่ได้มีดีแค่วิวที่สวยงาม ยังรายล้อมไปด้วยถนนคดเคี้ยวมากมายที่พร้อมจะทดสอบสมรรถนะของ Lexus LC ได้ทุกเมื่อ นั่นก็สื่อได้ถึงขุมพลังที่มีให้เลือก 2 รูปแบบตั้งแต่เปิดตัวจนถึงปัจจุบัน ได้แก่
LC500h
เครื่องยนต์รหัส 8GR-FXS เบนซิน บล็อก V6 สูบ DOHC 28 วาล์ว ขนาด 3.5 ลิตร 3,456 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 94.0 x 83.0 มิลลิเมตร กำลังอัด 13.0 : 1 ฉีดจ่ายน้ำมันแบบ Direct Injection (D4-S) ด้วยหัวฉีด Electrical Fuel Injection (EFI) พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VVT-iW (ฝั่งไอดี) และ VVT-i (ฝั่งไอเสีย) ให้กำลังสูงสุด 299 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 348 นิวตันเมตร ที่ 4,900 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว รวมพละกำลังสูงสุดทั้งระบบ 359 แรงม้า (PS) จับคู่กับระบบส่งกำลังแบบ Multi-stage Hybrid Transmission ขับเคลื่อนล้อหลัง
LC500
เครื่องยนต์รหัส 2UR-GSE เบนซิน บล็อก V8 สูบ DOHC 32 วาล์ว ขนาด 5.0 ลิตร 4,968 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 94.0 x 89.5 มิลลิเมตร กำลังอัด 12.3 : 1 ฉีดจ่ายน้ำมันแบบ Direct Injection (D4-S) ด้วยหัวฉีด Electrical Fuel Injection (EFI) พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VVT-i ให้กำลังสูงสุด 464 แรงม้า (PS) ที่ 7,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift 10 จังหวะขับเคลื่อนล้อหลัง
ยังไม่มีการเปิดเผยราคาในขณะนี้ แต่ Lexus ยืนยันว่าจะเปิดให้ชาวยุโรปจับจองกันได้ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป
—————-///——————
ที่มา : Lexus