Volvo Car USA ได้เริ่มโปรเจคเพื่อช่วยเหลือเหล่าดีลเลอร์ในสหรัฐอเมริกา ในขั้นตอนการตรวจรับรถก่อนเข้ารับบริการ หรือ เพื่อประเมินสภาพรถเบื้องต้น โดยสามารถตรวจสอบได้ครบวงจร ไล่ตั้งแต่ ยางรถยนต์ พื้นตัวถังด้านล่าง พื้นผิวตัวถังภายนอก เพื่อให้ลดภาระของพนักงานรับรถและเป็นการลดเวลาและขั้นตอนของการตรวจรับรถ
ผู้ผลิตเทคโนโลยีนี้คือ UVeye ซึ่ง Volvo ได้ร่วมมือในการ พัฒนาและวิจัย การนำ artificial intelligence (AI) และ เทคโนโลยี machine learning มาปรับใช้กับการตรวจสภาพรถ ทำให้เพิ่มความละเอียดและแม่นยำ โดยเฉพาะในจุดที่ลูกค้ามักจะมองไม่เห็น เช่น สนิมใต้ท้องรถ โดยจะเริ่มนำร่องกับเหล่าดีลเลอร์ทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐ และจะขยายไปทั่วจนครบทั้ง 280 แห่ง
สำหรับเทคโนโลยีนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1. Helios ทำหน้าที่ตรวจสอบด้านใต้ท้องรถทั้งหมด เพื่อตรวจสอบความเสียหาย การรั่วของน้ำมันหรือของเหลวต่างๆ 2. Artemis ทำหน้าที่ตรวจสอบสภาพยางรถ ทั้งการยืนยันขนาดและความกว้างของยาง ความเสียหายของแก้มยาง หรือแม้กระทั่งความหนาของดอกยาง รวมไปถึงสภาพทั่วไปของยางอีกด้วย 3. Atlas ที่เป็นเสมือนกล้อง 360 องศา เพื่อตรวจสอบสภาพภายนอกตัวถังรอบคัน ทั้งรอยบุบ รอยเฉี่ยวชน หรือแม้กระทั่งสนิมตามจุดต่างๆ
โดยวัตถุประสงค์หลักของการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ ก็ยังแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือการลดเวลาการทำงานของพนักงานตรวจสภาพรถ ส่วนต่อมาคือการสร้างรายงานเข้าในระบบ เกี่ยวกับสภาพตัวรถทั้งหมด รวมไปถึงจัดเก็บรูปถ่าย เพื่อให้เป็นฐานข้อมูลและสามารถแชร์ให้กับลูกค้าได้ และส่วนสุดท้าย คือการยืนยันสภาพรถ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าตลอดการใช้งาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อนำเจ้าเครื่องนี้ไปตรวจสภาพรถลูกค้าที่จะนำมาเทิร์นเปลี่ยนรถคันใหม่ หรือขายให้กับดีลเลอร์ จะทำให้ดีลเลอร์สามารถประเมินสภาพได้อย่างเที่ยงตรงและแม่นยำในเวลารวดเร็ว และอาจทำให้ลูกค้าประหลาดใจในสภาพตัวรถที่พวกเค้ามักจะคิดว่า รถของเค้ามีสภาพดีกว่าในความเป็นจริง
การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้กับการให้บริการหลังการขาย โดยเฉพาะกับดีลเลอร์ จะทำให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงการปรับตัวของค่ายรถยนต์ให้ทันต่อโลกยานยนต์ เพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยตลอดการใช้งานของลูกค้า Volvo