พื้นฐานแพลทฟอร์ม MQB-A0-IN ที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์ที่จะออกจำหน่ายในประเทศอินเดียโดยเฉพาะ ถูกนำไปใช้กับรถยนต์หลากรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Skoda Kushaq ,Volkswagen Taigun, Skoda Slavia รวมถึงรุ่นล่าสุด อย่าง Volkswagen Virtus ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปหมากๆ ถือได้ว่าเป็นฝาแฝดที่แชร์งานวิศวกรรมหลายส่วนกับ Skoda Slavia สังเกตได้จาก ความกว้างล้อคู่หน้าและหลัง ตลอดจนระยะฐานล้อ ที่มีขนาดเท่ากัน

ขนาดและมิติตัวถัง

  • ความยาว : 4,561 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง : 1,752 มิลลิเมตร
  • ความสูง : 1,507 มิลลิเมตร
  • ฐานล้อ: 2,651 มิลลิเมตร

ภายนอกมาพร้อมรูปทรงซีดาน 4 ประตูที่มีระยะต่ำสุดใต้ท้องมากกว่ารถซีดานทั่วไป ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของรถที่ทำตลาดในประเทศอินเดีย การตกแต่งรอบคันทำให้ยกระดับ Virtus ให้สูงกว่า Slavia ตั้งแต่งานออกแบบด้านหน้าที่แฝงด้วยความสปอร์ตพร้อมช่องลมด้านหน้าขนาดใหญ่สีดำเงา ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยม ไฟหน้า LED พร้อม DRL และไฟท้ายแบบ Signature LED กันชนท้ายตกแต่งด้วยทริมสีดำเงาและโครเมี่ยมเช่นเดียวกับด้านหน้า

แบ่งการตกแต่งตามรุ่นย่อย 2 แบบ ได้ แก่ Dynamic Line และ Performance Line ที่มาพร้อมป้ายชื่อรุ่น GT ที่กระจังหน้า ซุ้มล้อหน้า และยังพ่นสีคาลิปเปอร์เบรกคู่หน้าเป็นสีแดง หลังคาสีดำ สปอยเลอร์ท้าย ล้ออัลลอยสีดำเงา รวมไปถึงแป้นเหยียบอลูมิเนียม

ภายในใช้โทนสีดำ-เบจในการตกแต่ง แต่ถ้าเป็นรุ่น GT จะเพิ่มทริมตกแต่งคอนโซลหน้าสีแดง พร้อมเบาะนั่งหุ้มหนังเดินด้ายสีแดง ระบบปรับอากาศแบบออโต้ควบคุมด้วยปุ่มสัมผัส ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หน้าจอเรือนไมล์แบบ Digital Cockpit ขนาด 8 นิ้ว ซึ่งสามารถปรับแต่งให้แสดงค่าได้ทั้งแบบ Analog และ Digital พร้อมหน้าจอ Infotainment แบบ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว

ติดตั้ง Apple Carplay Android Auto และ Wireless AppConnect จาก Volkswagen พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่งและที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบระบายความร้อน กุญแจแบบ Keyless entry พร้อม ปุ่ม Push start เบาะนั่งแบบพับได้อัตราส่วน 60/40 และห้องเก็บสัมภาระความจุ 521 ลิตร

เครื่องยนต์จะมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่

เบนซิน 1.0 Turbo

เครื่องยนต์เบนซิน TSI 4 สูบ 16 วาล์วขนาด 1.0 ลิตร เชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection พร้อมระบบอัดอากาศ Turbocharger ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 178 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ สำหรับรุ่น Dynamic Line

เบนซิน 1.5  Turbo (สำหรับรุ่น Performance Line หรือ GT)

เครื่องยนต์เบนซิน TSI 4 สูบ 16 วาล์วขนาด 1.5 ลิตร เชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ แบบ Direct Injection พร้อมระบบอัดอากาศ Turbocharger ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ DSG 7 จังหวะ พร้อม Paddle shift

ระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ติดตั้งมาให้ ประกอบด้วย

  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
    • คู่หน้า
    • ด้านข้าง
    • ม่านนิรภัย
  • ระบบช่วยเหลือการทรงตัว ESC
  • ระบบออกตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control
  • ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง Tire pressure Deflation Warning
  • จุดยึดนิรภัยสำหรับเบาะเด็ก ISOFIX

สีตัวถังภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง Wild Cherry Red สีเหลือง Curcuma Yellow สีเทา Carbon Steel Grey สีเงิน Reflex Sliver สีขาว Candy White และสีน้ำเงิน Rising Blue Metallic

ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงรายละเอียดเบื้องต้น ณ วันเปิดตัว

ที่มา: Volkswagen