หลังจากที่ Stellantis เผยแผนการเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อมาโฟกัสเฉพาะแบรนด์ Fiat ซึ่งในปัจจุบันมีโมเดลชูโรงเป็นรถไซส์มินิ หรือ A-Segment นั่นก็คือ Fiat 500 ที่ได้ผันตัวมาเป็นรถ EV อย่างเต็มตัว

ทาง Fiat ยังกล่าวถึงยอดขายของ 500e ในปี 2021 โดยเคลมว่าเป็นผู้นำในกลุ่มนี้ โดยกวาดยอดขายไปได้มากถึง 44,000 คัน อีกทั้งยังมีการระบุว่าจะเปิดตัวรถ EV ที่เป็นรถยนต์นั่งรุ่นปริศนาอีก 1 รุ่น ภายในปี 2022-2023 ก่อนที่เตรียมจะเป็นผู้ผลิตรถยนต์อีก 1 รายที่จำหน่ายแต่เพียงรถ EV เท่านั้น ในปี 2027 เนื่องจากเป็นค่ายรถยนต์นั่งรายเดียวในกลุ่ม Stellantis ที่ไม่มีแผนการเปิดตัวรถ PHEV ในอนาคต

Olivier François CEO ของ Fiat ได้เคยกล่าวไว้เมื่อปี 2021 ว่า” ในช่วงระหว่างปี 2025 ถึง 2030 เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เกิดระบบขนส่งที่ยั่งยืน ด้วยการจัดจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเรา”

เพื่อให้นโยบายการผลัดเปลี่ยนเพื่อเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ต่างๆ ในค่ายสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี Stellantis จึงทุ่มงบกว่า 35 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท) ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงปี 2025 หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ก็คือ การเปลี่ยนโรงงาน Mirafiori ในเมือง Turin ประเทศอิตาลี ที่ได้เริ่มการผลิต 500e ให้กลายเป็นศูนย์กลางของการผลิตรถ EV และนอกจากนี้ยังมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ในเมือง Termoli อีกด้วย

สำหรับแฟนๆ Fiat 500 ที่ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในและรุ่นใหม่ 500e ณ ตอนนี้ ในยุโรปยังทำตลาดควบคู่กันไป ถึงแม้ว่า 500e จะยกระดับให้เป็นรถ EV เต็มตัว ที่มาพร้อมงานออกแบบที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความทันสมัย ทั้งภายนอกและภายใน เช่นหน้าจอมาตรวัดขนาด 7 นิ้ว จอกลางขนาด 10.25 นิ้ว ตามสมัยนิยม ด้วยพละกำลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 120 แรงม้า (PS) ทำให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายในเวลา 9 วินาที มีระยะทางวิ่งต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้งเท่ากับ 320 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 42 kWh

ที่มา: Motor1


Stellantis เผยไทม์ไลน์เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในช่วงปี 2022 – 2023