คู่แท้สองโลก Spyker-Saab แค่หัดเดินก้าวแรกแห่งในโลกยนตรกรรมก็ต้องเจอมรสุมสกัดกั้นการเจริญเติบโตเข้าเสียแล้ว เมื่อทั้งคู่ต่างประสบภาวะขาดทุนในครึ่งแรกประจำปี 2010 ถึง 139 ล้านยูโรหรือ 177 ล้านดอลลาร์ หนำซ้ำยังประมาณการณ์กันว่าพวกเขาต้องประสบภาวะขาดทุนนานจนถึงปีหน้าเลย

ผลจากการขาดทุนโดยมิได้ตั้งใจขนาดนี้ทำให้ Spyker ผู้กุมชะตากรรม Saab ถึงขนาดลดเป้ายอดขายในปีนี้ของ Saab ใหม่

สถานการณ์ของ Spyker-Saab คงพอจะบอกสังเขปได้แค่ว่าพวกเขากำลังถือเงินสดในระบบ 280 ล้านยูโรและยังคงค้างอีก 266 ล้านยูโรจากเงินกู้ธนาคารเพื่อการลงทุนยุโรป (EIB) เงินระดับนี้อาจทำให้ทั้งคู่ประคองตัวและสามารถทำกำไรได้ภายในปี 2012

แม้ภาวะขาดทุนอาจจะทำให้บั่นทอนกำลังใจ Spyker ในการปลุกปั้น Saab ให้กลับมาอีกครั้ง แต่ทีมผู้บริหารก็กล้าเดินหน้าลุยต่อไปเพราะพวกเขารู้ดีว่าการลงทุนหรือพลิกฟื้นแบรนด์ก็ต้องมีอุปสรรคอย่างที่ปรากฏ อีกทั้งมันยังไม่ใช่ภาพที่ชัดเจนนัก นี่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น พวกเขาจึงต้องเดินหน้าลุยต่อไป แม้ว่า Spyker อาจจะต้องปรับเป้าการขาย Saab ในปีนี้จาก 50,000 คันเหลือ 45,000 คันก็ตาม

สำหรับเป้าการขาย Saab ปีถัดไป Spyker ตั้งเป้าสูงถึง 80,000 คันและเป้าระยะยาวพวกเขาจะต้องทำยอดขายให้ได้ 120,000 คันต่อปีถือเป็นเป้าที่สูงใช้ได้การทีเดียว

เราคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า All New 9-5 จะช่วยทำให้ Saab มีผลกำไรที่ดีขึ้นในระยะยาวได้หรือไม่