เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่ James Bond เลือกใช้ Aston Martin เป็นยานพาหนะคู่ใจ
(ก่อนที่จะมีจุดจบเป็นเศษเหล็กในอีกสิบนาทีต่อมาหลังเข้าฉาก) มากว่า 50 ปีและ
เป็นการต้อนรับ007 ภาคล่าสุด Spectre ที่ยังเลือกใช้ยนตกรรมสายพันธุ์อังกฤษ
แบรนด์นี้ Aston Martin จึงส่ง DB9 GT 007 Bond Edition รุ่นสั่งลาสำหรับอนุกรม
DB9 ก่อนการฉายของหนังพยัคฆ์ร้ายภาคล่าสุด
ภายนอกนั้นใช้สีพิเศษเฉพาะรุ่น Spectre Silver พร้อมโลโก้ 007 Bond Edition
ติดตั้งเพิ่มเพื่อให้ตระหนักถึงความเป็นสายลับ นอกจากนี้ยังมีล้อลาย 10 ก้านสีดำเงา
ขนาด 20 นิ้ว, caliper พ่นสีเทา, ชิ้นส่วน aero parts ทำจาก carbon fiber, และโลหะ
ตกแต่งรอบคันทำจาก aluminum ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนที่ทำให้ Bond Edition
แตกต่างจากรุ่น GT ธรรมดา
ส่วนภายนั้นเมื่อเปิดประตูมาจะพบว่ากันเตะข้างประตูมีสัญลักษณ์ประจำรุ่นติดตั้งมาให้
พร้อมกับระบุจำนวนว่าเป็นคันที่เท่าไรจากรถทั้งหมด และเมื่อเปิดหน้าจอก็จะพบ
สัญลักษณ์ประจำรุ่นอีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายหากมองไปข้างหลังจะพบว่าเบาะหลังนั้น
มีสัญลักษณ์ภาพยนตร์ 007 ฝังอยู่ในเบาะ
เครื่องยนต์ยังไม่มีการปรับแต่งเพิ่มเติมใดๆ DB9 คันนี้จึงยังใช้เครื่องยนต์ V12
ความจุ 6.0 ลิตร สร้างกำลังสูงสุด 547 แรงม้า (PS) ที่ 6,750 รอบนาที พร้อม
แรงบิดสูงสุด 63.22 กก-ม. (620 นิวตันเมตร) ที่ 5,500 รอบ/นาที ซึ่งจับคู่กับ
เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งสร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมงภายใน 4.5 วินาที
ก่อนจะเข้าสู่ความเร็วสูงสุดที่ 295 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
หากคิดว่าคุณพร้อมแล้วที่จะเข้าร่วมภารกิจกับ MI-6 เพื่อเป็น James Bond คนต่อไป
ซึ่งที่คุณต้องทำคือหาชุด tuxedo สีดำซักชุดพร้อมกับกำเงินจำนวน 237,000 ดอลล่าร์
สหรัฐฯ ไปที่ผู้แทนจำหน่าย Aston Martin เพื่อขับรถประจำกายคันนี้พร้อมรับนาฬิกา
Omega และกระเป๋าเดินทาง Globe-Trotter ซึ่งมีสัญลักษณ์ Aston Martin ไปเริ่มงาน
สายลับได้เลย แต่ต้องรีบหน่อยเพราะ Aston Martin ทำออกมาเพียง 150 คันเท่านั้น
ที่มา : topgear, motorauthority, astonmartin