เป็นที่น่าสังเกตว่าแบรนด์รถยนต์หรูหลายแบรนด์ต่างกวาดยอดขายรถยนต์ไปอย่างท่วมท้น ไม่เว้นแม้แต่แบรนด์ซุปเปอร์คาร์กระทิงเปลี่ยวอย่าง Lamborghini เนื่องจากทำยอดขายทั่วโลกไปได้มากกว่า 8,405 คัน เพิ่มขึ้นมากถึง 13% เมื่อเทียบกับปี 2020
เมื่อแยกการเติบโตของตลาดแต่ละภูมิภาคจะเห็นว่า 3 อันดับแรกที่ทำยอดขายเพิ่มได้แก่ ทวีปอเมริกา ทวีปเอเชีย และ EMEA (ยุโรป ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา) ซึ่งเมื่อคิดเป็นสัดส่วนจากยอดทั้งหมดจะคิดเป็นจำนวน 35% 27% และ 39% ตามลำดับ สำหรับประเทศที่ทำยอดขายได้สูงสุดได้แก่ สหรัฐอเมริกา 2,472 คัน (เพิ่มขึ้น 11%) ตามมาด้วย ประเทศจีน 935 คัน (เพิ่มขึ้น 55%) ประเทศเยอรมัน 706 คัน (เพิ่มขึ้น 16%) และสหราชอาณาจักร 564 คัน (เพิ่มขึ้น 9%) ส่วนในตลาดบ้านเกิดอย่างประเทศอิตาลีขายได้ 359 คัน (เพิ่มขึ้น 3%)
โมเดลที่ทำยอดขายสูงสุด ได้แก่ URUS SUV สมรรถนะสูงระดับซุปเปอร์คาร์ ที่ขายไปได้มากกว่า 5,021 คัน ตามมาด้วยอันดับสอง Huracan 2,586 คัน เป็นพลพวงมาจากการเปิดตัวรุ่นพิเศษอย่าง Huracan STO และปิดท้ายด้วย Aventadors จำนวน 798 คัน
เมื่อย้อนไปในช่วงปี 2021 Lamborghini ได้เปิดตัวรถรุ่นพิเศษจำนวนมากถึง 3 รุ่น ได้แก่ Huracan STO ที่ได้แรงบัลดาลใจในการออกแบบและเทคโนโลยีต่างๆ จากรถแข่ง Huracán Super Trofeo EVO และ HURACÁN GT3 EVO และรุ่นพิเศษส่งท้ายอย่าง Aventador Ultimate รวมไปถึงการปัดฝุ่นตำนานอย่าง Countach LPI 800-4 ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองการครบวาระ 50 ปี ของ Countach เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกของ Lamborghini ในการเผยถึงแนวทางการเป็นผู้ผลิตรถซุปเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้าในเร็วๆ นี้ หรือที่เรียกว่า “Direzione Cor Tauri” ซึ่งมีการพูดถึงระบบขับเคลื่อนทั้งแบบไฮบริด ที่จะเปิดตัวในปี 2023 และพลังงานไฟฟ้า ในปี 2024 คุณ Stephan Winkelmann ประธานและ CEO ของ Lamborghini กล่าวว่า ”ยอดขายดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันว่า การที่ยึดมั่นตามแผนงานพร้อมด้วยศักยภาพต่างๆ ขององค์กร ทำให้เราได้รับการตอบรับที่ดีจากทั่วโลก ด้วยตัวแทนจำหน่ายจำนวน 173 แห่ง จาก 52 ประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้” โดยในปี 2022 นี้ Lamborghini เตรียมจะเปิดตัวรถโมเดลใหม่จำนวนมากถึง 4 รุ่น
ที่มา: Lamborghini