Jeremy Clarkson พิธีกร Top Gear รายการรถยนต์ชื่อดังของโลก ตกเป็นข่าวใหญ่ตั้งแต่ปีที่แล้วด้วย
การมีเรื่องชกต่อยกับโปรดิวเซอร์รายการ จนทำให้ BBC ต้นสังกัดรายการ ตัดสินใจแบน Clarkson
สร้างความฮือฮา ก่อความสงสัยให้กับแฟนรายการว่า ‘แล้วรายการ Top Gear จะเป็นยังไงต่อไปกันล่ะเนี่ย?’

ในที่สุด มีข่าวอย่างเป็นทางการออกมาแล้วว่า Clarkson ตวัดปากกาเซ็นสัญญากับ Amazon เว็บไซต์
ขายของและคอนเทนต์รายใหญ่ของโลกเรียบร้อยแล้ว เพื่อสร้างรายการรถรายการใหม่ ด้วยจำนวนเงินสูงถึง
250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กันเลยทีเดียว สำหรับการทำรายการป้อน Amazon เป็นจำนวน 36 ตอน ในเวลา 3 ปี

2460699695_c99fe326fa_o

มากไปกว่านั้น Amazon ให้งบการทำรายการ 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อตอน (มากกว่าสมัยอยู่ที่
Top Gear ซึ่ง BBC ให้งบ 1.5 ล้านเหรียญฯ-ซึ่งถือว่าเป็นงบรายการต่อตอนที่แพงที่สุดของ BBC)
และจากสัญญานี้ ภายในช่วงเวลา 3 ปี Clarkson จะเก็บเงินเข้ากระเป๋าได้มากถึง 46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สำหรับ Top Gear ซีซั่นที่ 22 ซึ่งเป็นซีซั่นสุดท้ายที่ Clarkson ได้ปรากฏใน Top Gear ได้ออกอากาศเพียง
7 ตอน จากที่ทำเอาไว้ 9 ตอน ซึ่งเป็นผลจากการที่สถานีฯ BBC ตัดสินใจแบน Clarkson หลังจากนั้น
Richard Hammond และ James May ก็ได้ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับ BBC เช่นเดียวกันกับ Andy Wilman
ซึ่งสนิทกับ Clarkson และเป็น Executive Producer ของรายการ ที่ไม่ยอมต่อสัญญากับ BBC

มีความเป็นไปได้สูงว่า โชว์ใหม่บน Amazon ของ Clarkson จะมีทั้ง Hammond และ May ร่วมด้วย
แต่จะมาในรูปแบบเดิมหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป

Jeremy Clarkson ร่วมงานกับรายการ Top Gear ตั้งแต่ปี 1988 ในฐานะหนึ่งในผู้วิจารณ์รถยนต์ในรายการ
ต่อมาในปี 2000 เขาได้ขึ้นแท่นเป็นพิธีกรหลักและช่วยเปลี่ยนรูปแบบรายการจากรายการรถยนต์ทั่วไปที่เน้นการให้ข้อมูล
มาเป็นรายการที่เน้นความบันเทิงมากขึ้น จนได้รับความนิยมสูงทันที และขึ้นแท่นรายการรถยนต์ระดับโลก
และเขาได้กลายเป็นหนึ่งในพิธีกรอังกฤษที่มีค่าตัวสูงที่สุดไปเรียบร้อยแล้ว

สำหรับรายการ Top Gear ซีซั่นต่อไป คาดว่าจะมาพร้อมกับพิธีกรชุดใหม่ ที่ยังไม่มีการเปิดเผยว่า ใครจะมารับ
หน้าที่พร้อมความกดดันนี้

ส่วนตัวของ Clarkson นั้น มีประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบมาหลายครั้งแล้วจากการใช้คำพูดพร้อมกิริยาที่ไม่เหมาะสม
ออกอากาศ ทั้งเรื่องการเหยียดผิว เหยียดเพศ รวมถึงใช้คำพูดวิจารณ์วัฒนธรรมอื่นในทางที่ไม่ดี (และเขาเองก็เคยเป็นข่าวใหญ่
เกี่ยวกับการใช้คำพูดเมื่อครั้งมาถ่ายรายการแถวๆบ้านเรามาแล้ว เมื่อไม่นานมานี้)

แต่จากตัวตน-การใช้คำพูด รวมถึงการกระทำที่ทำให้เขาถูกแบนจาก BBC กลับทำให้เขาได้รับข้อเสนอ
ที่ดีกว่าเดิมหลายเท่าขนาดนี้ นับว่าเป็นการสร้างปัญหาที่เพิ่มมูลค่าของเขาได้มากจริงๆ

ที่มา : Business Insider