Volkswagen Phaeton กลายเป็นประติมากรรมที่ทุกคนใน Volkswagen Group ต้องจดจำนานแสนนานเพราะมันไม่
ประสบความสำเร็จเสียจนกลายเป็นตัวถ่วงผลกำไรของ Volkswagen Group แทนที่จะได้หน้าได้ตากลับคว้าน้ำเหลวไป
เสียฉิบ

2015_08_24_VW

เรื่องของเรื่องคือ Volkswagen เลื่อนแผนการเปิดตัวและการผลิต All New Volkswagen Pheaton ออกไปเพราะ
บริษัทยังไม่สามารถหาจุดคุ้มทุนที่จะผลิตมัน ถึงแม้ว่า Phaeton ตัวใหม่ถูกพัฒนาจนเสร็จทั้งคันแล้วก็ตาม ถ้าจะผลิตจริง
Volkswagen ก็ต้องยอมรับต้นทุนที่สูงกว่า Passat ถึง 3 เท่าให้ได้

จุดกำเนิดความล้มเหลวเกิดจาก Ferdinand Piech อดีตแชร์แมน Volkswagen Group ที่มีจิตวิญญาณนักวิศวกรอย่าง
เต็มเปี่ยมพยายามฟูมฟักโปรเจคท์ซีดานใหญ่หรูลูกรักที่จะประกาศให้โลกรู้ว่า ข้าก็สามารถผลิตซีดานใหญ่ที่มีคุณภาพ
เทียบเท่ากับ Mercedes-Benz S-Class ได้

รถดีไม่ดีแค่ไหนนั้นคุณก็ลองคิดดูการประกอบ Volkswagen Phaeton ต้องทำด้วยมือทั้งหมดในโรงงาน เดรสเดน
เยอรมนี, เจ้าหน้าที่วิศวกรรมจะต้องสวมชุดฟอร์มสีขาว บางครั้งก็สวมถุงมือขาวด้วย แม้กระทั่งลายไม้ก็ต้องคัดสรรด้วยมือ
ล้วน ๆ เช่นกัน

Tim Urquhart นักวิจัยจากสำนัก IHS Automotive สำนักงานอังกฤษได้แสดงความคิดเห็นว่า Volkswagen ต้องตอบ
คำถามจากคำถามที่ไม่เคยมีใครถามว่า “ใครอยากจะซื้อรถลีมูซีนยี่ห้อ Volkswagen บ้าง?”

ปัจจุบัน Mercedes-Benz S-Class กวาดยอดขายถล่มทลาย 1 แสนคันเมื่อปีที่แล้ว ส่วน Volkswagen Phaeton กลับ
คว้าน้ำเหลวเพียงแค่ 4 พันคันเท่านั้นลดลงฮวบถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2013 ยอดขายขนาดนี้ถือว่ากอดคอตาย
กับ Volkswagen EOS อย่างไม่สมศักดิ์ศรี

อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังมองว่า Volkswagen Phaeton คือรถ Flagship ประจำแบรนด์ Volkswagen ที่ยังต้องคงอยู่
เอาไว้

หน้าที่หลักของ Volkswagen Group ในวันนี้คือการถ่าง Margin ผลกำไรจาก 2.7% ในปัจจุบันซึ่งก็ยังแพ้ PSA
Peugeot-Citron ให้ทะลุถึง 6% ภายในปี 2018 ให้ได้ นั่นหมายความว่า Herbert Diess อดีตหัวหน้าฝ่ายจัดซื้อและ
การพัฒนาจาก BMW ที่เริ่มทำงานให้ Volkswagen ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมาต้องพลิกฟื้นให้ Volkswagen
Phaeton กลับมากลายเป็นรถรุ่นใหญ่ที่ทำกำไรได้

ถือว่าเป็นงานหินที่สุดเท่าที่ Volkswagen เคยเจอมา

ที่มา : Automotive News