ถึงแม้ Aston Martin เป็นค่ายเงินถุงเงินถังแต่ทว่าพวกเขาก็มีใจที่จะกล้าขยายธุรกิจตัวเองเกินสินทรัพย์ที่มีอยู่ บ้างก็อาจ
มองว่า Aston Martin ทำงานเกินตัว แต่ถ้าอยู่ในมุมมองของรูปบริษัทธุรกิจ พวกเขาก็ยังถือว่ามีเครดิตที่จะขอเงินจากผู้
ลงทุน, กู้ยืมจากสถาบันการเงินชั้นนำได้ ขอเพียงแค่พวกเขาได้เงินมาลงทุนทุกอย่างก็จะเนรมิตความสำเร็จมาให้ตาม
ความพร้อม

2015_08_22_Aston_Martin1

Andy Palmer ซีอีโอ Aston Martin ยืนยันว่าอีกไม่นานพวกเขาจะไลน์อัพรถรุ่นใหม่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา มีทั้งรถ
สปอร์ตแบบฉบับ Aston Martin, รถซีดานขนาดยักษ์หรือแม้กระทั่ง DBX เวอร์ชันรถไฟฟ้าก็มีให้เลือกสรรพทุกสิ่งสรรค์

Andy Palmer กล่าวว่าการออกรถยนต์รุ่นใหม่สายฟ้าแลบเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจที่ยังเป็นปัญหา
แตกหักกันอยู่ Aston Martin เคยได้รับความเดือดร้อนจนถึงขั้นล้มละลายถึง 7 ครั้งในรอบ 102 ปี โดยหน้าที่ของเขาต้อง
ทำได้มากกว่าแค่การพัฒนารถสวยงามกล้าหาญชาญชัยเสียอีก

และเพื่อเป็นการเตือนความจำ เราต้องขอพูดซ้ำอีกครั้งว่า Aston Martin ได้รับเงินลงทุน 300 ล้านดอลลาร์จาก
Investindustrial และTejara Capital ผู้ถือหุ้นรายสำคัญของ Aston Martin

Palmer เผยว่าเงินลงทุนมากขนาดนั้นก็จะนำไปใช้พัฒนารถสปอร์ต Aston Martin ใหม่ 3 รุ่น, รถซีดานคันใหม่ภายใต้
แบรนด์ Lagonda อีก 2 คัน, รถ Halo Car สร้างภาพลักษณ์และ Aston Martin DBX

Aston Martin จะเปิดตัว DBX เวอร์ชันขึ้นสายการผลิตจริงป้วนเปี้ยนแถวปี 2019 ตัวรถจะดูแตกต่างจากรถต้นแบบบ้าง
และอาจมีทางเลือกตัวถัง 4 ประตูรวมไปถึงเวอร์ชันรถไฟฟ้าอีกด้วย

Palmer ได้วางแผนให้รถยนต์ Aston Martin มีอายุการทำตลาดหดสั้นลงเหลือเพียงแค่ 7 ปีเท่านั้น เพื่อเปิดโอกาสให้
Aston Martin มีการจัดกิจกรรมแนะนำรถยนต์ใหม่หรือรุ่นปรับปรุงทุกปี สร้างความน่าสนใจและสดใหม่ให้แก่ตัวแบรนด์
ได้ในตัว

นอกจากนี้ Palmer ยังเตรียมผ่าตัดกรรมวิธีการพัฒนารถใหม่ด้วยการลงทุนวิจัยการตลาด เพราะ Palmer มองเห็นว่า
การสร้างรถสักคันไม่ใช่ให้ผู้บริหารพึงพอใจแต่เป็นลูกค้าซึ่งถือเป็นกระบวนการที่ใหม่สำหรับ Aston Martin อย่างแรก
เลยคือ Aston Martin ต้องการจับกลุ่มลูกค้าผู้หญิงบ้างก็เลยสร้าง DBX Concept ออกมาเรียกน้ำย่อยกัน

Palmer มีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่า Aston Martin DBX จะกลายเป็นรถ Aston Martin ที่ขายดีที่สุด

นี่คือการพลิกชะตากรรม Aston Martin ที่พลิกแพลงมากที่สุดในรอบ 102 ปีทีเดียว

ที่มา : The Detroit Bureau