นับว่าเป็นช่วงเคราะห์ซ้ำกรรมซัดของ Volkswagen ก็ว่าได้เพราะผู้ผลิตรายนี้พึ่งเสียรถยนต์
ไปกว่าสองพันคันจากเหตุการณ์ท่าเรือในเมือง Tianjin ของประเทศจีนระเบิดเมื่อกลาง
สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังคงไม่พบว่าต้นตอของเหตุระเบิดนั้นมาจากอะไร แต่ที่แน่ๆคือ
ไม่ได้มาจากรถเต่าแน่นอน ล่าสุด Volkswagen ตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับระบบถุงลมนิรภัย
ฝั่งคนขับจนนำไปสู่การเรียกรถลูกค้าเข้ามาตรวจสอบเป็นจำนวนถึง 420,000 คัน

 
BESTDRIVE_2010_VW_Golf_GTi_03

 

ขณะนี้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางหลวงแห่งชาติของประเทศสหรัฐฯหรือ National
Traffic Safety Administration (NHTSA) ได้ทราบเรื่องแล้ว ส่วนต้นตอของ airbag เจ้าปัญหา
นั้นอยู่ที่แกนควบคุมการทำงานของถุงลมนิรภัยที่เรียกกันว่า wheel clock spring หรือ spiron
ซึ่งติดตั้งหลังพวงมาลัยรถยนต์นั้นเกิดอาการแพ้เส้นผมหรือเส้นใยทักทอใดๆอย่างรุนแรง ถ้ามี
วัสดุเหล่านี้เข้าไปพันตัวสไปรอนอาจทำให้สายไฟภายในตัวควบคุมหลุดได้ ซึ่งผลที่ตามมาคือ
ไฟแจ้งเตือนระบบการทำงานถุงลมนิรภัยผิดปกติบนหน้าปัดก็จะออกมาทักทายเจ้าของ นอกจากนี้
ยังมีโอกาสสูงที่ถุงลมนิรภัยจะไม่ทำงานในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

 
2010_VW_Golf_GTi_03R

 

เคราะห์ดีที่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากการทำงานผิดพลาดของถุงลมนิรภัยรุ่นนี้ ส่วนวิธี
แก้ปัญหานั้นทาง Volkswagen จะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเรียกรถเข้าไปตรวจสอบซึ่งขณะนี้
อยู่ระหว่างการระบุหมายเลขตัวถังซึ่งสูงถึง 420,000 คันอันประกอบไปด้วยรถรุ่นต่อไปนี้

• Passat CC รุ่นปี 2010 – 2014
• Eos รุ่นปี 2010 – 2013
• Golf/ GTI รุ่นปี 2011 – 2014
• Jetta รุ่นปี 2010 – 2013 และ Jetta SportWagon รุ่นปี 2011 – 2013
• Passat รุ่นปี 2010 สำหรับรุ่นที่ผลิตในเยอรมัน และ รุ่นปี 2010 – 2014 สำหรับรุ่นที่ผลิตที่สหรัฐฯ
• Tiguan รุ่นปี 2010 – 2014

 
BESTDRIVE_2010_VW_Golf_GTi_int15

 

เราขอเป็นกำลังใจให้ Volkswagen ผ่านพ้นวิกฤตซวยซ้ำซวยซ้อนนี้ไปได้ด้วยดี สำหรับสาวก
ค่าย VW ชาวไทยที่เป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นที่พึ่งกล่าวถึงไปนั้น ถ้าอยากลดความเสี่ยงที่ airbag
จะไม่ทำงานนั้น เจ้าของต้องใช้ความระมัดระวังหลีกเลี่ยงอย่าให้เส้นผมหรือเส้นด้ายทุกชนิด
หลุดรอดเข้าไปในบริเวณหลังพวงมาลัย เนื่องจากวัสดุเหล่านั้นอาจทำให้ airbag ขัดข้อง
ซึ่งจะนำไปสู่การบาดเจ็บในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

ที่มา : Motortrend