Aston Martin Valhalla คือยุคใหม่ของค่ายที่จะมาสร้างนิยามการขับขี่รูปแบบ the Mastery of Driving ในรูปแบบของ supercar สัญชาติอังกฤษสุดหรูหราและพิเศษสุด เปิดตัวเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2021 มาพร้อมกับขุมพลัง Hybrid ที่ทั้งระบบให้กำลังสูงสุดรวมกัน 950 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร
ภายนอกของ Aston Martin Valhalla ออกแบบมาให้เน้นสร้างแรงกดแบบเดียวกับของ Valkyrie จึงเต็มไปด้วยชิ้นส่วนแบบ active ในด้านหน้าและสปอยเลอร์หลัง สามารถสร้างแรงกด 600 กิโลกรัม เมื่อใช้ความเร็ว 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งยังคำนึงถึงการรีดลมใต้ท้อง ไฟหน้าเป็นแบบ Full LED Matrix ยางเป็นของเฉพาะรุ่นจาก Michelin มีขนาด 20 นิ้ว ในด้านหน้า และ 21 นิ้ว ในด้านหลัง
ห้องโดยสารมีให้เลือกทั้งพวงมาลัยขวาและพวงมาลัยซ้าย เมื่อเทียบกับ Valkyrie จะพบว่ามีพื้นที่มากกว่า และมีกลิ่นอายของ Formula One หลายจุด รวมไปถึงการออกแบบให้ดูเรียบง่าย และให้ความสำคัญผู้ขับขี่ เบาะยึดตายตัวกับแชสซีส์ แต่ปรับตำแหน่งพวงมาลัยและแป้นเหยียบได้ พร้อมมีตำแหน่งพื้นรถที่ยกขึ้นสูง ส่วนระบบแสดงผลมี HMI ทำงานกับหน้าจอสัมผัสที่เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ได้
ขุมพลังของ Aston Martin Valhalla เป็นเครื่องยนต์เบนซินวางกลาง แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 750 แรงม้า ที่ 7,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DCT 8 จังหวะ ส่งกำลังล้อคู่หลัง เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ติดตั้งด้านหน้า 1 ตัว ด้านหลัง 2 ตัว พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 400 โวลต์ ในส่วนของระบบไฟฟ้า กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
ทั้งระบบ กำลังสูงสุด 950 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 330 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งยังมีการตั้งเป้าที่จะทำสถิติรอบสนาม Nürburgring ภายใน 6.30 นาที สำหรับ EV Mode สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นระยะทางสูงสุด 15 กิโลเมตร และ ทำความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Aston Martin Valhalla มีน้ำหนักตัวต่ำกว่า 1,550 กิโลกรัม ด้านระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มีหลายรายการไม่ว่าจะเป็น
- Auto Emergency Braking ระบบลดความเร็วโดอัตโนมัติ เมื่อเสี่ยงชน
- Forward Collision Warning ระบบแจ้งเตือน เมื่อเสี่ยงชนด้านหน้า
- Active Cruise Control ระบบล็อคความเร็วโดยอัตโนมัติแบบแปรผัน
- Blind Spot Monitoring ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
- Rear View Parking Camera กล้องมองหลัง พร้อม option กล้องมองภาพรอบคัน
ที่มา: Aston Martin