Audi RS4 Avant

ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU)

  • RS4 Avant quattro  5,899,000 บาท

โดย Meister Technik ผู้แทนจำหน่ายรายใหม่ รับประกัน Warranty 5 ปี หรือ 150,000 km. พร้อม 24hr Road-side Assistant บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 ปี รายละเอียดของ Meister Technik อ่านได้ที่ >> http://www.headlightmag.com/audi-thailand-meister-technik-official-launch/

Dimension มิติตัวถัง

  • ยาว  4,782 มิลลิเมตร
  • กว้าง  1,866 มิลลิเมตร
  • สูง  1,414 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ wheelbase  2,826 มิลลิเมตร
  • ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย  495 – 1,495 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)

Engine เครื่องยนต์

เครื่องยนต์เบนซิน V6 สูบ Direct Injection ขนาด 2.9 ลิตร 2,894 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.5 x 86.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1  พละกำลังสูงสุด 450 แรงม้า ที่ 5,700 – 6,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,900 – 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro ความจุถังน้ำมัน 58 ลิตร

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 4.1 วินาที

Exterior ภายนอก

  • เครื่องยนต์เบนซิน V6 2.9 เทอร์โบคู่ 450 แรงม้า 600 นิวตันเมตร
  • เกียร์อัตโนมัติ Tiptronic 8 จังหวะ
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro
  • ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง ขนาด 275/30 R20
  • ยางอะไหล่
  • ระบบเบรก แบบ RS พร้อมตกแต่งคาลิปเปอร์ด้วยสีแดง
  • พวงมาลัยไฟฟ้า EPS
  • ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ Start/Stop System
  • ช่วงล่าง แบบ RS Sports
  • ระบบท่อไอเสีย แบบ RS Sports
  • ระบบเลือกโหมดการขับขี่ Audi Drive Select
  • ชุดตกแต่งภายนอก แบบ RS
  • ชุดตกแต่งภายนอก แบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และ ชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black
  • หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
  • ราวหลังคา ตกแต่งด้วยสีดำ
  • ไฟหน้า Matrix LED
  • ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
  • กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
  • กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า
  • กระจกมองข้าง พร้อมฟังก์ชั่น บันทึกความจำตำแหน่ง Memory
  • กระจกมองข้าง ปรับมุมมองอัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง

Interior ภายในห้องโดยสาร

  • ชุดตกแต่งภายใน แบบ RS
  • ด้านข้างของคอนโซลกลางหุ้มด้วยหนัง
  • พวงมาลัยหุ้ม Alcantara สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมสัญลักษณ์ RS
  • แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
  • ที่วางแขนข้างประตูหุ้มหนัง Fine Nappa ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • คันเกียร์หุ้มด้วย Alcantara สีดำ
  • เข็มขัดนิรภัยสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร ลาย Matte Carbon
  • พรมในห้องโดยสารด้านหน้าสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ RS
  • ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ แยกควบคุมอิสระ 3 Zones
  • ม่านบังแดดประตูหลัง ซ้าย-ขวา
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
  • ระบบกุญแจ Comfort Key
  • ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
  • ฝาท้าย เปิด-ปิด โดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Tailgate
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up Display
  • หน้าจอมาตรวัดดิจิตอล Virtual Cockpit Plus ขนาด 12.3 นิ้ว
  • ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Contour Ambient Light แบบปรับสีได้
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
  • ระบบล็อคเบรกขณะหยุดนิ่ง Audi Hold Assist

 

Seating เบาะนั่ง

  • เบาะนั่งคู่หน้า หุ้มด้วยหนัง Fine Nappa
  • เบาะนั่งคู่หน้า แบบ RS Sports ตกแต่งแบบ Honeycomb
  • เบาะนั่งคู่หน้า พร้อมฟังก์ชั่นนวดเพื่อการผ่อนคลาย
  • เบาะนั่งคู่หน้า ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบปรับดันหลัง
  • เบาะนั่งคู่หน้า พร้อมฟังก์ชั่น บันทึกความจำตำแหน่ง Memory ฝั่งคนขับ
  • เบาะนั่งด้านหลัง แยกปรับ พับได้



Entertainment ระบบความบันเทิง

  • ระบบเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen แบบ 3 มิติ
  • ระบบเครื่องเสียง MMI Navigation Plus
  • หน้าจอกลาง ระบบสัมผัส MMI Touch ขนาด 10.1 นิ้ว
  • ระบบ Audi Smartphone Interface
  • เครื่องเสียงรองรับวิทยุ AM/FM CD MP3 และ SD Card
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
  • ช่องเชื่อมต่อ AUX
  • ช่องเชื่อมต่อ USB


Safety ระบบความปลอดภัย

  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบควบคุมการทรงตัว ESC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
  • ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ Audi pre-sense basic
  • ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหลัง Audi pre-sense rear
  • ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน Blind Spot Assist
  • ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear-Cross Traffic Assist
  • ระบบแจ้งเตือด้านข้าง และ ด้านท้ายรถ เมื่อเปิดประตูจะลงจากรถ Exit Warning
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
  • ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
  • เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า – ด้านหลัง
  • กล้องมองภาพขณะถอยจอด
  • จุดยึดเบาะนั่ง ISOFIX
  • ชุดปฐมพยาบาล

สีตัวถังภายนอกมีให้เลือก 7 สี

  • สีขาว Glacier white Metallic
  • สีดำ Mythos black Metallic
  • สีเทาเข้ม Daytona Grey Pearl Effect
  • สีเทา Nardo Grey Solid
  • สีฟ้า Turbo Blue Solid
  • สีแดง Tango Red Metallic
  • สีเขียว Sonoma Green Metallic

Audi RS4 Avant quattro  5,899,000 บาท

RS Mode

  • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 4.82 วินาที
  • อัตราเร่ง 80 – 120 km/h : 3.12 วินาที

RS Mode

  • อัตราเร่ง 0 – 200 km/h : 14.70 วินาที

Launch Control

  • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 4.21 วินาที

Top Speed

  • ความเร็วสูงสุด 267 km/h @ 6,500 rpm (6th gear)

 

Audi RS4 Avant quattro  5,899,000 บาท

 

RS มาจากคำภาษาเยอรมัน ” RennSport ” หรือก็คือ Racing Sport ในภาษาอังกฤษ วางชั้นเป็นคู่ปรับของ AMG จาก Mercedes-Benz และ M จาก BMW ตระกูล RS มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1994 โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง Audi และ Porsche รุ่นแรกนั้นคือ ” RS2 Avant ” เป็นตัวถังแบบ Station Wagon เหมือนกับ RS4 Avant ที่อยู่กับเราวันนี้

หากเทียบกัน 3 ค่าย ให้เห็นภาพกันแบบง่ายๆ ก็คือ

  • A4 | C-Class | 3-Series
  • S4 | C 43 | M340i
  • RS4 | C 63 | M3

สำหรับ RS4 คู่แข่งตรงรุ่นจริงๆแล้วก็คือ Mercedes-AMG C 63 และ BMW M3 / M4 หากเทียบเครื่องยนต์ตรงตัวแล้ว Audi เป็นรองรหัส AMG 63 อยู่ช่วงตัว เพราะ Audi ใช้เครื่องยนต์ V6 2.9 Bi-Turbo 450 แรงม้า ในขณะที่ C 63 ใช้เครื่องยนต์ V8 4.0 Bi-Turbo 469 แรงม้า ส่วน C 63 S จะอยู่ที่ 510 แรงม้า

ไปดูทางฝั่ง BMW M3 / M4 ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 เทอร์โบคู่ 480 แรงม้า ในรุ่นปกติ และ 510 แรงม้า ในรุ่น Competition

แต่สิ่งที่ทำให้ Audi RS4 Avant ในไทย ได้เปรียบคือ การตั้งราคาของ Audi ประเทศไทย เคาะเอาไว้ที่ 5,899,000 บาท ส่วนคู่แข่งทั้ง 2 อยู่ในระดับเกิน 9 ล้านบาทด้วยกันทั้งหมด ส่วนต่าง 4 ล้านกว่าบาท เลยทำให้ RS4 Avant กลายเป็น Performance Cars ที่คุ้มค่า คุ้มราคากับเงินที่จ่ายออกไปมาก

ก่อนหน้านี้ผมมีโอกาสได้ขับ GLC 63 S V8 4.0 Bi-Turbo 510 แรงม้า บน Autobahn ที่เยอรมนี พอได้มาขับ Audi RS4 Avant บนถนนเมืองไทย ก็จับความรู้สึกได้ว่า RS4 Avant เป็นรองรหัส 63 S จริงๆ ในเรื่องของซุ่มเสียง และ ความนุ่มลึก และ ความไหลลื่นของอัตราเร่ง

แต่กระนั้น V6 2.9 Bi-Turbo 450 แรงม้า ที่อยู่ใน RS4 Avant ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าช้าเลยแม้แต่นิดเดียว ณ วันนี้ ผมกล้าพูดได้เลยว่านี่เป็น Audi ที่ดีที่สุด เท่าที่ผมเคยได้ขับ Audi มา และ ผมกลับชอบบุคลิกของมัน มากกว่าตัวแรงหลายต่อหลายรุ่น ศักดิ์ศรีเครื่องยนต์บล๊อคนี้ ดีกรี Audi พัฒนาร่วมกับ Porsche พละกำลัง 450 แรงม้า 600 นิวตันเมตร แรงบิดมาตั้งแต่รอบต่ำจนน่าตกใจ รอบเครื่อง 1,500 รอบ/นาที ก็แผลงอิทธิฤทธิ์กันได้แล้ว เหยียบพุ่ง แม้แตะคันเร่งเบาๆ ละสายตาอีกที ความเร็วจาก 40 km/h ก็เกิน 140 km/h ไปเสียแล้ว

อัตราเร่ง 0-100 km/h ใน RS Mode ทำได้ที่ 4.82 วินาที ส่วนอัตราเร่งแซง 80-120 km/h อยู่เพียง 3.12 วินาที เท่านั้น ความเร็วสูงสุดถูกล็อคเอาไว้ที่ 267 km/h หากออกตัวโดยใช้ Launch Control จะได้ 4.2 วินาที เกือบเท่าตัวเลขเคลมจากโรงงานที่ 4.1 วินาที แต่อย่าลืมว่า อากาศในบ้านเราร้อนกว่าที่เยอรมนีแน่นอน

วิธีการออกตัวแบบ Launch Control

  • กดปุ่ม ESC Off ค้างเป็นเวลา 4-5 วินาที
  • เลือกโหมดการขับขี่เป็น Dynamic Mode หรือ RS Mode
  • กดปุ่ม Auto Start/Stop ให้อยู่ในตำแหน่ง Off
  • ใช้เท้าซ้ายจมเบรกสุด เท้าขวากดคันเร่งสุดให้โดนปุ่ม Kick Switch หลังแป้น

จากนั้นเตรียมพบพลังเต็มที่กันได้เลย ตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 km/h เมื่อทำ Launch Control จะอยู่ที่ 4.1 – 4.2 วินาที ซึ่งเร็วกว่าการออกตัวกดคันเร่งเต็มราวๆ 0.7 วินาที

บุคลิกช่วงล่างของ RS4 Avant คือ สิ่งที่ผมประทับใจมาก มันไม่นุ่ม ไม่แข็งจนเกินไป ไม่สะท้านสะเทือน หรือ ดิบ จนเหนื่อย มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก แม้จะใส่ล้อ 20 นิ้ว ยางซีรีส์ 30 ก็ตามที บวกกับ ช่วงล่าง RS Sport ที่ปรับความแข็งอ่อนไม่ได้ แต่การเซ็ตติ้งที่ให้มาลงตัวกำลังดี ให้ความนิ่งที่ความเร็วสูง ไต่ความเร็วไปถึง 180 km/h ให้ความรู้สึกเหมือน 100 km/h เท่านั้น แต่ถ้าใครที่ต้องการความดิบ ความสนุกในการดิ้น หรือ พยศของช่วงล่าง แบบ BMW M2 Coupe’ ขอให้ตัด RS4 Avant ไปได้เลย เพราะมันจะไม่ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน บุคลิกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ระบบความปลอดภัย และ ช่วยเหลือการขับขี่มีมาให้แบบมาตรฐาน ยังขาดไปก็คือ ระบบเตือนการชน เบรกอัตโนมัติ และ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน แบบรักษาระยะห่าง Adaptive Cruise Control โดยส่วนตัวผมมองว่ารถ Performance Cars แบบนี้ ไม่มีมาให้ก็ยังพอเข้าใจได้ แต่ถ้าให้มาก็ถือว่าเป็นกำไรเจ้าของรถ ยังดีที่ให้ระบบเตือนมุมอับสายตากระจกมองข้าง Blind Spot Monitoring ซึ่งผมมองว่าจำเป็น ช่วยในการเปลี่ยนเลน และ แซงให้ปลอดภัยมากขึ้น ไฟเตือนนั้นติดตั้งอยู่ที่ฝั่งกระจกมองข้างด้านใน ไฟสว่างเห็นชัดด้วยหางตาใช้ได้เลยทีเดียว

จุดที่ไม่ค่อยประทับใจก็มีเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ไม่มีเลย อันดับแรกคือ ดีไซน์ภายในห้องโดยสารบริเวณแดชบอร์ดหน้า ผมว่ามันออกจะอนุรักษ์นิยม Conservative ไปเสียหน่อย ไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจเหมือนอย่าง Mercedes-Benz / Mercedes-AMG ที่ดูแพง ดูล้ำกว่า ถ้า Audi RS4 Avant ปรับส่วนดีไซน์แดชบอร์ดหน้าให้เหมือนกับรุ่นพี่ตระกูล A7 น่าจะลงตัวมากๆครับ หากเทียบกับ BMW รุ่นใหม่ๆ ผมว่าคะแนนของความหวือหวาภายในห้องโดยสาร Audi / BMW ถือว่าสูสีกัน

สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ชดเชย และ หักล้างข้อเสียทุกอย่างได้เกือบหมด คือ ” ราคา ” 5,899,000 บาท กับศักดิ์ศรีความเป็น RS เทียบชั้น AMG 63-Series และ M3 / M4 ที่ถูกกว่ากันเกิน 4 ล้านบาท ทำให้ Audi RS4 Avant เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายออกไป เมื่อเทียบกับม้า 450 ตัว ที่ได้มา และ ความเป็น Avant ที่เต็มไปด้วยอรรถประโยชน์ใช้สอย ขับง่าย ใช้ในชีวิตประจำวันได้ทุกวันแบบไม่เหนื่อย นี่แหละคือ รถพ่อบ้านซิ่งที่แท้จริง !


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/79635.0