ผมเคยได้ยินนักวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจเคยเปรียบเปรยเศรษฐกิจจีนว่าจะเป็นฟองสบู่ที่พร้อมแตะดัง “โพละ” ในไม่ช้า และ
วันนี้ดูเหมือนสภาพการณ์ของประเทศจีนชักใกล้เคียงกับคำทำนายเข้าไปทุกวัน

ถ้าในเมื่อสภาวะเศรษฐกิจของจีนกลายเป็นฟองสบู่แตก นั่นก็หมายความว่าบริษัทรถหรูก็ย่อมได้รับผลกระทบสาหัสที่สุด
เพราะประชาชนต้องรัดเข็มขัด งดเว้นการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย

และด้วยภาวะสภาวะเศรษฐกิจถดถอยขนาดนี้จึงไม่แปลกใจนักที่บริษัทรถหรูต้องขุดเคล็ดวิชาเอาตัวรอดเพื่อป้องกันธาตุ
ไฟแตกซ่าน

ล่าสุด มีแหล่งข่าวจากวงในภายใน 2 คนยืนยันว่า Audi ถึงขั้นลงเงิน 193 ล้านดอลลาร์สำหรับต่อลมหายใจดีลเลอร์
ในช่วงยอดขายรถหรูชะลอตัวเช่นนี้ โดยอ้างว่าเน้นสร้างความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินของดีลเลอร์, คุณภาพ
การบริการและการรักษาระดับราคาเป็นสำคัญในสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงเช่นนี้

ตลาดรถจีน ณ ขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะขาลง เนื่องจากตลาดรถยนต์ในจีนกำลังอิ่มตัวและเมื่อเจอผลกระทบภาวะเศรษฐกิจ
ชะลอตัวและตลาดหุ้นผันผวน ก็ส่งผลร้ายต่อตลาดรถยนต์อย่างชัดเจนจนทำให้ Volkswagen, BMW และ Toyota ต้อง
อัดฉีดเงินให้แก่ดีลเลอร์เพื่อประคองตัวไปก่อน

Volkswagen อัดฉีดเงินให้แก่ดีลเลอร์ 1 พันล้านหยวนพร้อมทั้งหั่นราคารถและเพิ่มข้อเสนอที่เย้ายวนใจ, Toyota อัดฉีด
เงินให้แก่ดีลเลอร์ 1.24 พันล้านหยวนเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายการเก็บสต๊อกรถ

BMW ทุ่มเงินถึง 5 พันล้านหยวนเพื่อช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่ดีลเลอร์หลังหยุดสั่งรถเข้าดีลเลอร์

ยอดขายรถยนต์ Audi เดือนมิถุนายนทำได้ 47,831 คันลดลง 5.8%, BMW มียอดขาย 36,887 คัน ลดลง 1.5% ส่วน
Mercedes-Benz อาการหนักยอดขายกราวรูด 39% จนเหลือ 32,507 คัน

หรือนี่จะถึงช่วงยุครถพรีเมี่ยมขาลงอย่างแท้จริง?

ที่มา : Automotive News