วันนี้ (16 กรกฎาคม 2015) ก็ได้เวลาเปิดตัว All New 2015 Toyota Fortuner เสียที ทุกคนจะได้เห็นคันจริงโดยไม่ต้องหลบ ๆ
ซ่อน ๆ และสามารถเผยแพร่ได้อย่างถูกกฎตามหลักของบริษัทสักที
ทำไมทุกคนถึงสนใจข่าวการเปิดตัว All New Toyota Fortuner ? เราก็บอกให้เลยว่า ข้อแรกมันคือ Toyota เจ้าพ่อ
อุตสาหกรรมรถยนต์รายใหญ่สุดของไทย ประการที่สองมันคือ Toyota Fortuner เอสยูวีที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานแชสซีส์
และตัวถังร่วมกับรถกระบะตระกูล Hilux ที่มียอดขายสะสมสูงสุดในหมวดพีพีวีสูงกว่า 220,000 คัน (ถ้าว่ากันตามกฎ
การจัดเก็บภาษีสรรพสามิต) เรียกว่าเป็นพีพีวีที่หลายคนยังไว้ใจซื้อหากันได้
Toyota Fortuner รุ่นปัจจุบันก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาสารพัดทั้งดีและร้าย อาทิ ปัญหาลูกค้าร้องเรียนควันไอเสียถูกดูด
เข้ามาภายในห้องโดยสาร, ปัญหา “เบรกทื่อแต่ปลอดภัย” และยังต้องมาเจอคู่แข่งที่ไม่คิดว่าจะกลับมาแข็งแกร่งได้อย่าง
Mitsubishi Pajero Sport และ Isuzu MU-X มาแย่งรัศมี Toyota Fortuner ได้อย่างสนิทใจ ถึงแม้ Toyota
Fortuner รุ่นปัจจุบันยังเป็นรถขายดิบขายดีอยู่ แต่ถ้าไม่รีบปล่อยรุ่นเปลี่ยนโฉมเห็นทีชื่อ Fortuner อาจกลายเป็นอดีตก็
เป็นได้
และนี่ก็คือที่มาของการเปิดตัว All New Toyota Fortuner ที่ Toyota Motor Thailand พยายามตั้งสโลแกนให้สวยหรู
(แต่คำซ้ำซาก) ว่า New legend of the pride : เหนือนิยามแห่งศักดิ์ศรี
All New Toyota Fortuner ถูกออกแบบและพัฒนาด้วยแนวคิด “เอสยูวีรูปลักษณ์ใหม่ พร้อมความมั่นใจในทุกการขับ
ขี่” (The True SUV with Style & Confidence) ถึงขั้นขยายขนาดเฟรมที่ใหญ่ขึ้นพัฒนาช่วงล่างแบบ 4 ลิงค์
เครื่องยนต์ใหม่, ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่
การตลาด Toyota พยายามจะชูจุดเด่น All New Toyota Fortuner ใหม่ถึง 4 จุดได้แก่
1.จุดขายด้านดีไซน์ ซึ่งก็เห็นตามภาพที่เห็น
2.จุดขายห้องโดยสารใหญ่ ฟีเจอร์เพียบ
3.จุดขายสมรรถนะการขับขี่ มาพร้อมเครื่องยนต์ GD เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “Sigma 4”
4.ระบบความปลอดภัย
มาดูออพชั่นเบื้องต้นกันครับ
ภายนอกของ All New Toyota Fortuner จะมีออพชั่นดังต่อไปนี้
-ไฟหน้า Bi-Xenon
-เสาวิทยุ Shark Fin
-กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว และระบบ Welcome Light
-ไฟตัดหมอกหน้า/หลัง
-สปอยเลอร์ท้ายพร้อมไฟเบรก LED
-ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding
ภายในห้องโดยสารของ All New Toyota Fortuner จะมีออพชั่นดังต่อไปนี้
– มาตรวัดเรืองแสงดีไซน์ล้ำแบบ Optitron
– จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi-Information Display) หน้าจอสีแบบ TFT ที่สามารถปรับตั้งค่าการทำงานของ
ระบบต่างๆ พร้อมแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขับขี่ตลอดการเดินทาง เช่น
• ข้อมูลการขับขี่
• ข้อมูลระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ
• ข้อมูลการขับขี่แบบ ECO
• ข้อมูลระบบนำทาง
• ข้อมูลการเล่นเพลง
-เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
– ระบบนำทาง (Navigator) พร้อมเครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ T-Connect และการเชื่อมต่อ
Bluetooth
-แอร์ออโต้
-มี Paddle Shift
-Push Start
-สวิตช์ควบคุมบนพวงมาลัย
-ระบบควบคุมไฟหน้า
-Cruise Control
ฟังก์ชั่นที่เกี่ยวกับอรรถประโยชน์ใช้สอยมีดังนี้
-ประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Power Back Door with Jam Protection) สั่งงาน
ง่ายผ่านรีโมท, สวิตช์ภายในรถบริเวณที่นั่งคนขับและบริเวณประตูท้ายมีระบบการจดจำตำแหน่งของการเปิด-ปิด ประตู
อัตโนมัติ
-เบาะนั่งที่พับและปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระตามรูปแบบการใช้งาน ได้แก่ แบบ L-SPACE, แบบ TUMBLE & SPACE-UP
ปรับพับเบาะเพื่ออรรถประโยชน์ในการใช้สอยสูงสุดและแบบ REAR SPACE ปรับพับเบาะแถว 3 เพื่อตอบสนองความ
สะดวกสบายทั้งผู้โดยสาร และการบรรทุกของได้
– ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสไฟฟ้า DC 12 โวลต์ และกระแสไฟฟ้า AC 220 โวลต์
– ช่องเก็บของแบบ Cool Box
ไฮไลต์สำคัญคือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Sigma 4 (Ʃ4) สามารถเลือกโหมดการขับขี่ด้วยโหมด H2, H4, L4ผสานการทำงาน
ร่วมกับระบบ DAC และ A-TRC แต่ทว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Sigma4 มีเฉพาะรุ่นดีเซล 2.8 ลิตรขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น
ระบบ DAC คืออะไร? มันคือระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Downhill Assist Control) ระบบการควบคุม
แรงดันเบรกอัตโนมัติขณะขับลงทางชัน ช่วยควบคุมความเร็วรถให้คงที่ ป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลลงเนินอย่างรวดเร็ว โดยผู้
ขับขี่ไม่จำเป็นต้องแตะเบรก
ส่วนระบบ A-TRC คือ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ (Active Traction Control) เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่าล้อ
ใดเริ่มสูญเสียแรงขับเคลื่อน ขณะวิ่งผ่านพื้นผิวลื่น ระบบจะลดแรงขับที่ส่งไปยังล้อนั้น เพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี และเพิ่มแรง
ขับไปยังล้อที่เหลือ
ระบบความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
-ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) ระบบจะเพิ่มแรงดันเบรกไปยังล้อทั้ง 4 อัตโนมัติ
ป้องกันรถไหลในจังหวะออกตัว บนทางลาดชัน
-ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) เซ็นเซอร์จะปรับแรงดันเบรก และกำลังของ
เครื่องยนต์ให้เหมาะสม เมื่อวิ่งบนถนนขรุขระ หรือใช้งานลากจูง และเผชิญลมพัดขวางรุนแรง ช่วยรักษาเสถียรภาพ
ป้องกันรถส่าย หรือเสียการทรงตัว
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) ป้องกันการเกิดอาการล้อหมุนฟรี เมื่อขับอยู่บนผิวถนนที่ลื่น ซึ่งเป็น
สาเหตุของการลื่นไถลทำให้รถเสียการทรงตัว
-ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
-ถุงลมนิรภัย 7 จุด ได้แก่ – ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง / ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง / ม่าน 2 ตำแหน่ง / เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
All New Toyota Fortuner มีให้เลือกถึง 5 แบบ และมีสีให้เลือกทั้งสิ้น 7 สี โดยเป็นสีใหม่ด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีน้ำตาล
Phantom Brown และสีน้ำเงิน Nebula Blue ด้วยราคาเริ่มต้น 1,199,000 บาท พร้อมเป้าหมายการขายที่ 2,600
คันต่อเดือน ถือเป็นเป้าที่โหดมากในยุคยอดขายรถขาลงดิ่งเช่นนี้
ราคาจำหน่าย All New Toyota Fortuner อย่างเป็นทางการ
2.4G 4×2 M/T 1,199,000 บาท
2.4V 4×2 A/T 1,369,000 บาท
2.7V 4×2 A/T 1,449,000 บาท
2.8V 4×2 A/T 1,529,000 บาท
2.8V 4×4 A/T 1,599,000 บาท
สีขาวมุก +เพิ่มอีก 12,000 บาท