Honda CR-V Minorchange (5 Seats)

เบนซิน

  • 2.4 S  2WD (5 ที่นั่ง) : 1,369,000 บาท
  • 2.4 ES  4WD (5 ที่นั่ง) : 1,529,000 บาท

เบนซิน

  • 2.4 E  2WD (7 ที่นั่ง) : 1,419,000 บาท
  • 2.4 EL  4WD (7 ที่นั่ง) : 1,579,000 บาท

ดีเซล

  • 1.6 DT-EL  4WD (7 ที่นั่ง) : 1,759,000 บาท

Engine เครื่องยนต์

Gasoline 2.4 i-VTEC (เบนซิน)

เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC DOHC 4 สูบแถวเรียง PGM-FI ขนาด 2.4 ลิตร 2,356 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 87.0 x 99.1 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.1 : 1 กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 224 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ FWD และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Real-time 4WD รองรับน้ำมันสูงสุด E85

สิ่งที่ Honda CR-V Minorchange ปรับเปลี่ยนไปจากรุ่นเดิม มีดังนี้

  • เพิ่ม สีตัวถังภายนอก น้ำเงินเข้ม Cosmic Blue
  • เพิ่ม หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • เพิ่ม อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
  • เพิ่ม กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • เพิ่ม ระบบบันทึกความจำตำแหน่งเบาะนั่งคนขับ Memory Seat
  • เปลี่ยน กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่
  • เปลี่ยน กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
  • เปลี่ยน กันชนหลัง ดีไซน์ใหม่
  • เปลี่ยน ลายล้อดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60 R18
  • เปลี่ยน ไฟหน้า โคมแบบรมดำ Smoke Chrome
  • เพิ่ม ไฟเลี้ยวโคมไฟหน้า แบบ Sequential
  • เปลี่ยน ไฟตัดหมอก เป็นแบบ LED
  • เปลี่ยน ไฟท้าย โคมแบบรมดำ Smoke Chrome
  • เปลี่ยน โครเมียมเป็นแบบรมดำ Smoke Chrome
  • ราคาปรับเพิ่มขึ้น 30,000 บาท จากเดิมในรุ่น 2.4 ES 4WD

รายละเอียด Option ของ Honda CR-V Minorchange

Exterior ภายนอก

  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Real-time AWD
  • ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60 R18
  • ระบบเบรก คู่หน้าดิสก์เบรก / คู่หลังดิสก์เบรก
  • ไฟหน้าแบบ Full LED
  • ไฟท้าย LED
  • ไฟ LED Daytime Running Light
  • ระบบปรับไฟหน้า สูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ
  • ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้า
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
  • กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
  • มือเปิดประตูด้านนอก สีเดียวกับตัวรถ
  • กาบข้างประตูตกแต่งด้วยโครเมียม
  • สปอยเลอร์หลัง
  • ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า Power Tailgate
  • ระบบเปิดฝาท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ (เตะเปิด) Hands Free Access Tailgate
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin

Seating เบาะนั่ง

  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ
  • เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า
  • ระบบบันทึกความจำตำแหน่งเบาะนั่งคนขับ Memory Seat 2 ตำแหน่ง
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 พนักพิงหลังสามารถปรับเอนได้
  • เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับอิสระ 60 : 40


Interior ภายในห้องโดยสาร

  • หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
  • ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
  • ภายในห้องห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้ และ สีดำ Piano Black
  • มาตรวัดดิจิตอล แบบสี TFT
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
  • ระบบกุญแจ Smart Key System
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • ปุ่ม ECON
  • กระจกหน้าต่างไฟฟ้า เปิด-ปิด Auto 4 บาน
  • พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
  • พวงมาลัยตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินเมทัลลิก
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา i-Dual Zone
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถว 2 หลังกล่องคอนโซลกลาง
  • ช่องแอร์บนเพดาน สำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ แถว 3
  • กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • ช่องชาร์จไฟ 12V 2 ตำแหน่ง
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า – ด้านหลังแบบ LED
  • ไฟส่องสว่างที่เก็บสัมภาระด้านหลัง
  • พนักเท้าแขนเบาะนั่งด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจห่างจากตัวรถ Walk Away Auto Lock
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
  • ระบบ Auto Brake Hold

Entertainment ระบบความบันเทิง

  • เครื่องเสียงหน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว Advanced Touch
  • เครื่องเสียงรองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play / Android Auto
  • ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI
  • ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย พร้อมฟังก์ชั่น Swipe
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
  • ช่องเชื่อมต่อ AUX
  • ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง
  • ระบบนำทาง Navigation System
  • ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร ANC
  • อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง


Safety ระบบความปลอดภัย

  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย MA-EPS
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSA
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
  • ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
  • ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ AHA (Agile Handling Assist)
  • ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ Auto Door Lock by Speed
  • ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ Driver Attention Monitor
  • กล้องมองภาพขณะถอยจอด ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตา Honda LaneWatch
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
  • ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
  • ระบบสัญญาณกันขโมย

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 5 สี : ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ

  • สีน้ำเงิน Cosmic Blue Metallic (NEW)
  • สีเงิน Lunar Silver Metallic
  • สีเทา Modern Steel Metallic
  • สีดำมุก Crystal Black Pearl (เพิ่มเงิน 8,000 บาท)
  • สีขาวมุก Orchid White Pearl (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)

ผลทดสอบ อัตราเร่ง Honda CR-V Minorchange 2.4 ES 4WD (5 ที่นั่ง) : 1,529,000 บาท

  • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 10.97 วินาที
  • อัตราเร่ง 80 – 120 km/h : 7.61 วินาที

Top Speed

  • ความเร็วสูงสุด 200 km/h @ 6,000 rpm

Fuel Consumption

  • อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ทำได้เฉลี่ย 14.10 km/l

Honda CR-V Minorchange 2.4 ES 4WD (5 ที่นั่ง) : 1,529,000 บาท

Short Review

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดตัวเสียที สำหรับ Honda CR-V Minorchange ที่แฟนๆฮอนด้า และ ลูกค้าหลายคนรอคอย หลังจากที่เลื่อนเปิดตัวจากเดือน มีนาคม 2020 เพราะ COVID-19 ตามงาน Bangkok International Motor Show จริงๆแล้ว ผมค่อนข้าง Surprise ที่ Honda ประเทศไทย ใส่หลังคากระจก Panoramic Sunroof มาให้ตอน Minorchange เพราะ คิดว่าคงจะงก และ กั๊กเหมือนเดิม เต็มที่ก็ใส่ระบบ Honda SENSING มาให้ตาม Civic เท่านั้น (เสียที ปล่อยให้รุ่นน้องที่ถูกกว่าอย่าง HR-V มีใช้มาตั้งแต่ปี 2014)

สำหรับผมแล้ว การใส่หลังคากระจก Panoramic Sunroof มาให้ ทำให้รู้สึกว่า CR-V มันน่าใช้ขึ้นเยอะ ใช่ครับ ผมค่อนข้างติดกับ Option นี้ เพราะ ใช้ Estima มา 2 ปีกว่า เปิดม่านหลังคาทุกครั้งที่มีโอกาส เพราะมันทำให้บรรยากาศในห้องโดยสาร โปร่งสบายมากกว่าเดิมเยอะ (ส่วนใครมีประสบการณ์เลวร้ายกับหลังคา Sunroof อันนี้ก็คงเฉยๆ กับสิ่งนี้)

เบาะ Memory Seat หน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง ถูกติดตั้งมาให้ฝั่งคนขับ เหมาะกับรถครอบครัวไม่น้อยเหมือนกัน บางวันสามีขับ บางวันภรรยาขับ ก็ไม่ต้องมานั่งปรับให้เสียอารมณ์ เสียดายที่ลายล้อยังไม่สวยเท่าตัวอเมริกา ที่ใช้ขนาด 19 นิ้ว แต่กับถนนเมืองไทย 18 นิ้ว ยางแก้มหนาหน่อย อาจจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากกว่า ความนุ่มนวลของช่วงล่างเป็นรอง Subaru Forester อยู่นิดหน่อย แต่ยังสบายกว่า Mazda CX-5 และ MG HS

พื้นที่ภายในห้องโดยสาร คือ จุดเด่นของ Honda CR-V ทุกรุ่นที่ผ่านมา และ Generation ที่ 5 ก็เช่นกัน กว้างขวางขึ้นกว่ารุ่นเดิม Gen4 ประตูบานหลังถูกออกแบบให้เปิดออกได้กว้างเกือบ 90 องศา ทำให้ขึ้นลงจากรถสะดวก เบาะนั่งด้านหลังของรุ่น 5 ที่นั่ง จะตัดระบบรางเลื่อนออกไป เพราะไม่ต้องใช้ในการเพิ่มพื้นที่ให้คนนั่งแถวที่ 3 แล้ว แต่กลไกการพับเบาะให้ปรับเอนได้ และ พับราบเรียบ ยังคงอยู่

พื้นที่วางขา หรือ Legroom มีพื้นที่เหลือเฟือ กว้างที่สุดในบรรดาคู่แข่งด้วยกัน พอๆกับ Subaru Forester แถมในรุ่น Minorchange นั้น มีการติดตั้งหลังคากระจก Panoramic Sunroof บานใหญ่มาให้ ทำให้ในห้องโดยสารดูน่าใช้ น่านั่งมากยิ่งขึ้น โดยอย่างยิ่งในเวลาฝนตก หรือ เวลากลางคืน ถ้ากลัวร้อน ก็มีม่านบังแดด เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้ามาให้ เป็นม่านแบบทึบแสง ไม่มีแสงผ่าน ก็ช่วยบรรเทาเรื่องความร้อนจากหลังคาไปได้ หากเทียบกับ MG HS ที่เป็นม่านแบบบางๆ

นอกจากนี้ บรรดาช่องเก็บของต่างๆก็ทำได้ดีเหมือนเช่นเคย ช่องเล็กช่องน้อย ช่องข้าง มีมาให้อย่างจุใจ ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวอย่างแท้จริง รวมไปถึงพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ก็ได้ทั้งด้านกว้าง และ ด้านสูง นี่คือจุดเด่นของ CR-V ที่หาใครเทียบยาก จะมีก็แต่ Mazda CX-8 2.5 SP 2WD อีกรุ่นที่น่าใช้ไม้แพ้ CR-V แต่ต้องจ่ายแพงขึ้นอีกราวๆ 120,000 บาท ถ้าเทียบรุ่น 7 ที่นั่งด้วยกัน เบาะแถว 3 นั่งได้จริง แต่ไม่มีระบบปรับอากาศด้านหลังสุดมาให้

อัตราเร่งของ Honda CR-V Minorchange เบนซิน 2.4 ลิตร อัตราเร่งของ CR-V 5 ที่นั่ง จะไวกว่าตัว 7 ที่นั่งเล็กน้อย การยกเบาะนั่งแถวที่ 3 ออกไป และ ระบบแอร์บนเพดานหลังคา ทำให้น้ำหนักเบากว่ากันประมาณ 45 กิโลกรัม

ตัวเลขที่ออกมาถือว่าเกาะกลุ่มกับคู่แข่งทั้งหมด ตัวเลขอัตราเร่งออกตัว 0-100 km/h เรียกได้ว่าใครกดคันเร่งก่อน ก็เข้าเส้นชัยก่อน อยู่ในระดับ 10 วินาที เฉือนกันแค่ทศนิยมตัวหลังเท่านั้น จะมีก็เพียงแต่ Subaru Forester เท่านั้น ที่ตามหลังเพื่อนค่อนข้างไกล อยู่ในช่วง 12 วินาที ส่วนอัตราเร่งแซง 80-120 km/h ก็เกาะกลุ่มใกล้เคียงกันทั้งหมด อยู่ที่ 7 วินาทีกว่าๆ ดังนั้นใครห่วงว่าอัตราเร่งจะอืดแล้วล่ะก็ หายห่วงได้เลย เพราะพอๆกันหมด ยกเว้น Forester ที่อืดกว่ากันชัดเจน

  • Nissan X-Trail 2.5 VL 4WD : 10.17 วินาที | 7.27 วินาที
  • Mazda CX-8 2.5 SP 2WD : 10.31 วินาที | 7.04 วินาที
  • Mazda CX-5 2.0 SP 2WD : 10.79 วินาที | 7.76 วินาที
  • Peugeot 3008 Allure 2WD : 10.85 วินาที | 8.02 วินาที
  • MG HS 1.5 Turbo 2WD : 10.92 วินาที | 8.98 วินาที
  • CR-V 2.4 ES 4WD : 10.97 วินาที | 7.61 วินาที 
  • Subaru Forester 2.0 4WD : 12.95 วินาที | 8.78 วินาที

ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง หลายคนคงมีภาพจำว่ากินน้ำมันดุเดือด ก็จริงอยู่นะครับ ขับเฉลี่ยนอกเมือง – ในเมืองรถติด อยู่ประมาณ 10 km/l ส่วนการทดสอบวิ่งทางไกล อยู่ที่ประมาณ 14 km/l แต่หากมาดูที่คู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน การวิ่งทางไกลก็ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ใกล้เคียงกัน อยูที่ระดับ 14-15 km/l จะมีก็แต่ Nissan X-Trail 2.5 และ MG HS 1.5 Turbo ที่ตัวเลขหล่นลงมาเหลือ 12 km/l

Honda CR-V รุ่นนี้ ถูกปรับปรุงด้านสมรรถนะการขับขี่บังคับควบคุม จากรุ่นเดิมแบบก้าวกระโดด แม้ช่วงล่างในความเร็วสูงจะยังไม่มั่นใจเท่า Mazda แต่ในภาพรวมถ้าคุณไม่ได้ขับขี่ด้วยความเร็วขนาดนั้น CR-V ก็ถือว่าเกินเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว ที่ความเร็ว 120 km/h บน Motorway คุณก็ยังไว้วางใจมันได้ พวงมาลัยน้ำหนักดี แม่นยำ

การใช้วัสดุภายในห้องโดยสารที่ดีขึ้น เทียบเท่า Mazda CX-5 เป็นอันดับต้นๆของกลุ่ม ราคาก็เกาะกลุ่มกับคู่แข่ง ยกเว้น MG HS ที่ใช้กลยุทธ์เอาราคาเข้าสู้ ราคาถูกกว่า 300,000 บาท Option ก็เยอะกว่า แต่ก็อาจจะต้องเสี่ยงกับคุณภาพ และ ความไว้วางใจอยู่บ้าง หากคุณต้องการรถที่พาคุณไปในทุกที่ด้วยความสบายใจ ช่วงล่างไว้ใจได้ ข้าวของที่มีในรถก็เหมาะสม แม้อาจจะยังขาดระบบ Honda SENSING ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินไป (อยากให้ใส่มาในรุ่นเบนซินบ้าง เพิ่มราคาสัก 2 หมื่นบาท น่าจะมีลูกค้าอีกมาก ที่อยากได้ระบบ Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่น Stop & GO) ราคา 1,529,000 บาท เพิ่มจากรุ่นเดิมแค่ 30,000 บาท แต่ข้าวของที่เพิ่มมาก็คุ้มค่าอยู่ ได้โบนัสคือราคาขายต่อที่ดีกว่าเพื่อนๆในกลุ่มเดียวกันค่อนข้างชัดเจน

แต่ยังแอบหวังเล็กๆว่า Honda ประเทศไทย จะเปลี่ยนเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ที่ใช้มาอย่างแสนยาวนาน จนช่างเครื่องยนต์ในประเทศไทยคุ้นเคยกันดี ไปที่ไหนก็น่าจะซ่อมได้ ถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ เหมือนใน Civic FC / FK ในรุ่นต่อไป เพราะคิดว่าโมเดลนี้ คงไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเครื่องยนต์กันแล้วล่ะครับ


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >>