J.D. Power and Associates ได้เผยข้อมูลดัชนีสำรวจคุณภาพรถยนต์ประจำปี 2015 ล่าสุดซึ่งก็มีข้อมูลที่ทำให้พวกเรา
ทุกคนต้องอึ้ง คือ Kia คือแบรนด์รถยนต์ Non-Premium สามารถครองใจลูกค้าด้านคุณภาพสูงสุดต่อจาก Porsche ในขณะ
ที่รถยนต์ญี่ปุ่นกลับมีค่าดัชนีคุณภาพตกต่ำลงจากค่าเฉลี่ยมาตรฐานอุตสาหกรรมในรอบ 29 ปี
การสำรวจดัชนีคุณภาพรถยนต์โดย J.D. Power and Associates จะสุ่มสำรวจลูกค้าจำนวน 84,000 รายที่ได้
ครอบครองรถยนต์รุ่นปี 2015 เป็นเวลา 90 วัน ในระยะเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนพฤษภาคม 2015
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ Kia ถูกจัดอันดับดัชนีคุณภาพแทบจะเทียบเคียง Porsche เลยก็เนื่องจาก Kia Soul และ
Cadenza ติดอันดับรถยนต์คุณภาพดี 1 ใน 10 อันดับ นอกจากนี้ Kia ยังมีการจัดวางเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้
โดยเฉพาะระบบเครื่องเสียง, เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ, ระบบนำทางที่ถูกปรับปรุงให้ใช้งานได้ดีขึ้น
Ford เองก็เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ขึ้นแท่นพัฒนาคุณภาพได้ดีขึ้นก็เพราะ Ford ได้จับตาดัชนีผลสำรวจคุณภาพรถอย่าง
ใกล้ชิดจนสามารถไปปรับปรุงระบบการเชื่อมต่อ MyFord Touch จนมีค่าดัชนีเหนือกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐาน นับตั้งแต่
พลาดพลั้งมาตั้งแต่ปี 2011
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดค่าดัชนีคุณภาพตัวรถย่ำแย่ลง ส่วนใหญ่มักเกิดมาจากระบบความบันเทิงและการเชื่อมต่อที่ก่อปัญหา
ปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับผู้ใช้เหลือเกิน โดยเฉพาะปัญหาการจดจำคำสั่งด้วยเสียงที่เป็นปัญหาโลกแตก
ไฮไลต์สำคัญของดัชนีสำรวจนี้คือ คุณภาพรถยนต์ญี่ปุ่นตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรกในรอบ 29 ปีถึงแม้ว่า
บริษัทรถญี่ปุ่นได้พยายามพัฒนาคุณภาพขึ้นมาบ้างแล้วก็ตาม และเมื่อเจาะลึกรายละเอียดค่าดัชนีคุณภาพรถยนต์ก็พบว่า
รถญี่ปุ่นมีปัญหาข้อบกพร่อง114 ปัญหาต่อรถจำนวน 100 คันถือว่ามากกว่าแบรนด์รถยุโรปที่มีปัญหา 113 ปัญหาต่อรถ 100 คัน
ขณะที่รถเกาหลีพัฒนาคุณภาพดีขึ้น 11% เมื่อเทียบกันปีต่อปี ส่วนแบรนด์รถอเมริกันและยุโรปมีพัฒนาการดีขึ้น 3% ส่วน
รถญี่ปุ่นพัฒนาคุณภาพไปได้แค่เพียง 1% เท่านั้น
ถ้าให้วิเคราะห์ตามเนื้อผ้าเลยก็คือบริษัทน้อยใหญ่แทบทุกค่ายต่างเร่งพัฒนาคุณภาพของตนเองจนช่วยระดับค่าเฉลี่ยดัชนี
คุณภาพให้สูงยิ่งขึ้นไป ในขณะที่ค่ายรถญี่ปุ่นกลับมีพัฒนาการที่น้อยผิดคาด (ซึ่งสาเหตุนั้นยากที่จะคาดเดา)
Porsche ขึ้นครองคุณภาพอันดับ 1 มายาวนาน 3 ปีแล้ว, Kia อัพเกรดตัวเองเป็นรองแค่ Porsche เพราะมีคะแนน 20
จุดจนผลักให้แบรนด์นี้ขึ้นแท่นมาไกล, สำหรับ Hyundai ก็ยังคงอยู่อันดับ 4 ส่วน Infiniti ก็ขยับมาไกลเป็นอันดับ 5
เพราะปรับปรุงคุณภาพจนได้แต้ม 31 คะแนน
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Infiniti กลายเป็นแบรนด์รถญี่ปุ่นที่สามารถเชิดหน้าชูตาด้านคุณภาพจากผลสำรวจครั้งนี้ก็เพราะ
Infiniti Q50 มีปัญหาแค่เพียง 42 จุดต่อ 100 คัน ส่วน QX60 ก็ปรับปรุงคุณภาพจนมีปัญหาแค่เพียง 34 จุดต่อ 100 คัน
ส่วนเจ้าพ่อคุณภาพอย่าง Lexus และ Toyota ก็ตกอันดับจาก Top 5 เหลือแค่อันดับที่ 9 และ 10 ตามลำดับส่วน
Honda ก็หล่นอยู่อันดับ 14 จากอันดับ 10
ความคิดเห็นโดยผู้เขียน
สุดท้ายแล้วนี่คือผลสำรวจความพึงพอใจด้านคุณภาพของรถใหม่เพียงแค่ 90 วันเท่านั้น ผู้ใช้ก็ยังประทับใจ รูป รส กลิ่น
เสียง ด้วยความมีกิเลสอยู่บ้าง ดังนั้นผลสำรวจด้านคุณภาพที่วัดได้จริง ๆ นั้นคงจะต้องรอให้ผู้ใช้ใช้งานไปสัก 2-3 ปี
กันก่อนครับ ถึงจะรู้ว่าคันไหนเจ๋งจริงไม่จริง
ที่มา : Automotive News