ค่ายกระทิงดุเอาใจผู้ที่ชอบความพยศของสปอร์ตขับหลัง และต้องการเปิดประทุนรับลมไปพร้อมกันด้วย Lamborghini Huracán EVO RWD Spyder หลังคาผ้าใบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V10 เสริมด้วยระบบป้องกันล้อหมุนฟรีที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ และหน้าตาที่ออกแบบมาใหม่ให้มีเอกลักษณ์ของตน
Lamborghini Huracán EVO RWD Spyder ใช้หลังคาผ้าใบสามารถเปิดหรือปิดได้ ภายใน 17 วินาที เมื่อใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งยังปรับดีไซน์ใหม่ให้แตกต่างจาก Huracán EVO 4WD Spyder ด้วยการเปลี่ยนกันชนหน้าให้มีช่องลมและชายกันชนแตกต่างกันไป ด้านหลังเพิ่มดิฟฟิวเซอร์สีดำเงาแบบใหม่ ล้อเป็นลาย Kari ขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยาง Pirelli P Zero และยังมีทางเลือกล้อขนาด 20 นิ้ว
ห้องโดยสารมีหน้าจอสัมผัส ขนาด 8.4 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ internet และ Apple CarPlay บนพวงมาลัยมีปุ่ม ANIMA สำหรับปรับรูปแบบการขับขี่ได้สามรูปแบบ ประกอบด้วย
- STRADA จำกัดแรงบิดเพื่อลดโอกาสที่ล้อคู่หลัง จะหมุนฟรีให้น้อยที่สุด เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไป
- SPORT ให้ผู้ขับขี่ดริฟท์ได้ตามสมควรแต่จะจำกัดแรงบิด หากพบว่าองศาท้ายปัดมากเกินไป เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมได้ง่ายขึ้น
- CORSA ปรับระบบให้มีการยึดเกาะสูงสุด เพื่อให้ความเร็วตอนออกจากโค้งสูงกว่า เพื่อความเร็วและสมดุลการขับขี่สูงสุด
ขุมพลังของ Lamborghini Huracán EVO RWD Spyder เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V10 ขนาด 5,204 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.5 x 92.8 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.7 : 1 ให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ LDF แบบ dual clutch 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หลัง ส่วนตัวเลขสมรรถนะมีรายละเอียดดังนี้
- ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.5 วินาที
- ทำอัตราเร่ง 0 – 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 9.6 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 324 กิโลเมตร/ชั่วโมง
น้ำหนักอยู่ที่ 1,509 กิโลกรัม ใช้โครงสร้างตัวถังวัสดุอะลูมิเนียม และ thermoplastic resin พร้อมแชสซีส์จากอะลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ กระจายน้ำหนักหน้าหลังในอัตรา 40:60 ช่วงล่างเป็นแบบ Double Wishbone และยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Performance Traction Control System (P-TCS) ที่ปรับแต่งมาให้โดยเฉพาะ ส่วนเบรกสามารถติดตั้งแบบคาร์บอนเซรามิคเพิ่มได้
Lamborghini Huracán EVO RWD Spyder เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา คาดว่าจะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าได้ระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายนนี้ สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นในยุโรป ซึ่งยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย 175,838 ยูโร (ราว 6,100,000 บาท)
ที่มา: Lamborghini