Volkswagen แห่ง Wolfsburg ส่งผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดรถยนต์นั่งสไตล์ Crossover ขนาดเล็ก
ในนาม CrossPolo อันเป็นรถที่มีพื้นฐานต่อมาจาก Polo รุ่นล่าสุด ที่เพิ่งออกสู่ตลาดเมื่อปลายปีที่แล้ว
การเผยโฉมครั้งแรก แม้จะมีขึ้นตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์ 2010 ที่่ผ่านมา แต่นั่นถือเป็นแค่การเผยโฉม
เพราะกว่าจะพร้อมออกสู่ตลาดจริง ก็ต้องรอให้อวดโฉมสู่สาธารณชน ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์
เสร็จสิ้นลงไปก่อน จากนั้น จึงจะเริ่มทำตลาดจริง กันเมื่อวานนี้ (14 มิถุนายน 2010)
เหตุที่ VW ทำรถรุ่นนี้ออกมา ก็เพราะว่า เมื่อครั้งที่ พวกเขา ออกรถรุ่น Polo Fun เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้
รถรุ่นพิเศษดังกล่าว ทำยอดขายเกินความคาดหมาย (5,000 คัน) ของ VW เอาไว้มาก นี่จึงกลายเป็น
ช่องทางใหม่ ที่ยักษ์ใหญ่เยอรมันเห็นว่าสามารถปลุกปั้น ให้เป็นตลาดที่สร้างยอดขายได้
ขนาดตัวถังมีความยาว 3,987 มิลลิเมตร กว้าง 1,698 มิลลิเมตร สูง 1,488 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ
2,469 มิลลิเมตร เมื่อมองจากภายนอก CrossPolo จะมีความโดดเด่นเหนือ Polo ทั่วไป นอกจากความสูง
ของตัวรถที่เพิ่มขึ้น 15 มิลลิเมตร แล้ว บริเวณซุ้มล้อจะมีชุดบังโคลนสไตล์สปอร์ตสีดำเสริมรูปลักษณ์
ของรถ ให้ดูเหมือนมีมัดกล้ามกำยำขึ้นกว่าเดิม ส่วนล่างของรถจะมีการติดตั้งแผงการ์ดที่เป็นพลาสติก
สำหรับกันกระแทก กันชนท้ายเป็นสีดำเป็นพลาสติกทนแรงกระแทกและตบท้ายด้วยล้ออัลลอยลาย
Budapest ขนาด 17 นิ้ว ห่อหุ้มไว้ด้วยยางขนาด 215/40 R17
บนหลังคาของ CrossPolo จะมีแร็คหลังคาเคลือบสีเงินแบบอโนไดซ์ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว
ของรถรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ แร็คหลังคานี้สามารถรับน้ำหนักได้ 75 กิโลกรัม ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงว่า
กระเป๋าใบใหญ่ๆของท่านจะไม่สามารถวางบนหลังคาได้ อย่างปลอดภัย นอกจากนี้กระจกมองข้าง
ยังเป็นสีเงินเล่นสีตัดกับกรอบกระจกประตูที่เป็นสีดำ เงา
การออกแบบภายในเน้นการใช้งานแบบสปอร์ตลุค ง่ายต่อการใช้งาน มีสีสันให้เลือก 4 แบบ
วัสดุและอุปกรณ์มาตรฐานเดียวกับรถ VW รุ่นใหญ่ ดังนั้นคุณจะพบแต่วัสดุที่ให้ผิวสัมผัส
ดูมีราคาและการประกอบที่ลงตัวราวกับ จับหั่นด้วยแสงเลเซอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังเจาะรู
และตกแต่งก้านพวงมาลัยด้วยอลูมินั่มเพื่อความสวยงาม
เบาะหลังสามารถพับลงได้ในแบบ 60:40 ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่พับเบาะคู่หลังลง CrossPolo จะมี
ปริมาตรจุสัมภาระด้านท้ายมากถึง 952 ลิตร นอกจากนี้พื้นห้องสัมภาระยังสามารถปรับระดับ
ความสูงเพื่อให้เกิดพื้นที่ สัมภาระซึ่งมีพื้นเรียบต่อเนื่องกัน เพิ่มความสะดวกในการบรรทุก
สิ่งของขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น
ขุมพลังที่มีให้เลือกสำหรับ CrossPolo จะมีเครื่องยนต์เบนซิน หัวฉีด คุมด้วยอีเล็กโทรนิคส์ 3 แบบ
และเครื่องยนต์ดีเซลอีก 3 แบบให้เลือก โดย เครื่องยนต์เบนซินรุ่นแรก จะเป็นขุมพลัง บล็อก 3 สูบ
OHC 1,198 ซีซี 70 แรงม้า (PS) ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 112 นิวตันเมตร (11.41 กก.-ม.)
ที่ 3,000 รอบ/นาที มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
ตามมาด้วยพิกัดที่ใหญ่ขึ้นเป็นบล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,390 ซีซี 85 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 132 นิวตันเมตร (13.45 กก.-ม.) ที่ 3,800 รอบ/นาที มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ
7 จังหวะ DSG Dual Clutch
ส่วนรุ่นสูงสุดจะเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ SOHC 8 วาล์ว 1,198 ซีซี Direct Injection พร้อม Turbocharge
หรือ TSI 105 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร (17.83 กก.-ม.) ที่รอบตั้งแต่
1,550-4,100 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 9.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้
188 ก.ม./ช.ม. โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และปล่อยมลภาวะแค่
128 กรัม/กิโลเมตร ในรุ่น 1.2 TSI นี้ลูกค้าจะได้เกียร์ธรรมดา 6 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หรือเลือกเกียร์
อัตโนมัติ DSG 7 สปีดเป็นออพชั่นเสริมได้
ส่วน เครื่องยนต์ดีเซลนั้น มีให้เลือก 4 ขนาด จะเป็นแบบ Common Rail Turbo Direct Injection (TDI)
พร้อม Diesel Particular Filter มาให้ทุกบล็อค เริ่มตั้งแต่ แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 1,199 ซีซี 75 แรงม้า (PS)
ที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร (18.3 กก.-ม.) ที่ 2,000 รอบ/นาที มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา
5 จังหวะ เท่านั้น
ที่เหลือจะเป็นบล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,598 ซีซี เท่ากันล้วนๆ แต่ด้วยการปรับจูนน้ำมันและบูสท์เทอร์โบ
ทำให้มีแรงม้าที่ไม่เท่ากัน โดยรุ่นที่แรงน้อยที่สุดจะมี 75 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด
195 นิวตันเมตร (19.8 กก.-ม.) ที่ 1,500 – 2,000 รอบ/นาที มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
หรือจะเลือกความแรงเพิ่มขึ้นได้เป็น 90 แรงม้า (PS) ที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร
(23.43 กก.-ม.) ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที และรุ่นแรงสุด ซึ่งมีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ อัตโนมัติ
DSG 7 จังหวะให้เลือกได้
รุ่นแรงสุด ของกลุ่มดีเซล จะอยู่ที่ 105 แรงม้า (PS) ที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
(25.47 กก.-ม.) ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ โดยทั้งสามรุ่นสามารถวิ่ง
100 กิโลเมตรได้โดยใช้น้ำมันไม่เกิน 4.3 ลิตร (เป็นอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย) และปล่อย CO2 แค่
113 กรัม/กิโลเมตร ดังนั้นเครื่องยนต์ของ CrossPolo ทุกรุ่นจึงสามารถผ่านมาตรฐานมลภาวะ
Euro5 ได้อย่างสบาย
ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัต คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ
ทอร์ชันบีม คานบิด เทรลลิงอาร์ม และคอยล์สปริง พวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง
แบบ Electrohydraulic power-assisted ระบบห้ามล้อเป็นแบบ หน้าดิสก์ หลังดรัม และ ดิสก์เบรก 4 ล้อ ตาม
แต่ละรุ่นย่อย แน่นอนว่า มีทั้งระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBPD และระบบเพิ่มแรง
ดันน้ำมันเบรกในภาวะฉุกเฉิน Break Assist มาให้เหมือนกับ Polo ใหม่ รุ่นอื่นๆ
เมื่อรวมความ ประหยัดเชื้อเพลิง กับความอเนกประสงค์ในการใช้งานและเรี่ยวแรงที่มีให้ใช้อย่างพอเพียง
ทำให้น่าจับตาดูกันว่า CrossPolo จะสามารถสร้างตัวเลขยอดขายที่น่าประทับใจให้กับ VW ได้หรือไม่
และพวกเราในเมืองไทยจะต้องรอกันไปอีกนานไหมกว่ารถยนต์ที่มีแนวคิดเช่นนี้ จะได้รับการยอมรับ
และทำให้ VW เปิดใจที่จะนำเข้ามาทำตลาดเสียที
————————————-///—————————————
Source : Volkswagen Media