หลังจากที่รุกตลาดด้วยรถโมเดลใหม่ๆ เครื่องยนต์ใหม่ๆและการพยายามปรับภาพลักษณ์ใหม่ของบริษัทให้กลับมาเป็นรถยนต์ระดับหรูที่สูงด้วยคุณภาพและความปลอดภัยที่เชื่อมั่นได้ (จากที่หลงออกไปในแนวพยายามสปอร์ตเหมือน BMW อยู่พักใหญ่) Mercedes-Benz ได้ฤกษ์เปลี่ยนสโลแกนประจำค่ายจากเดิม “Unlike any others” (ไม่เหมือนผู้อื่นใด) ให้กลายเป็น “The Best or Nothing” (ถ้าไม่ใช่ที่สุด ก็อย่าเลยจะดีกว่า)

โดยสโลแกนนี้เพิ่งถูกประกาศใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง โดยทาง Mercedes-Benz ตั้งใจให้สโลแกนนี้
สะท้อนให้เห็นถึงแก้วสามประการ (Core Value) ของทางค่ายซึ่งได้แก่ “perfection, fascination and responsibility” ซึ่งหมายความว่านับแต่นี้ต่อไป
ค่ายดาวสามแฉกจะคำนึงถึง ความสมบูรณ์แบบในการประกอบและการผลิต ความสวยงามน่าหลงใหลในการออกแบบ และความพยายามในการสร้าง
ต้นพลังขับเคลื่อนเพื่อสิ้งแวดล้อม และเทคโนโลยีความปลอดภัยตามหน้าที่ของบริษัทรถยนต์พึงต้องส่งเสริมเพื่อช่วยให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น

The Best or Nothing จะถูกนำไปใช้ในสื่อพิมพ์ นิตยสาร โฆษณา ทั้งทางโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ตนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
โดยภาพยนตร์โฆษณา ชุดแรกที่ใช้สโลแกนใหม่นี้ มีเนื้อเรื่องพูดถึง ความตั้งใจของ ก็อตลีบ เดมเลอร์ ผ่านนักแสดงผู้สวม
บทบาทของผู้ก่อตั้งกลุ่ม Daimler AG คนนี้ เมื่อครั้งย้อนไป 125 ปีก่อนหน้านั้นว่า เขาตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง
“ต้องดีที่สุด หรือไม่เช่นนั้น ก็อย่าทำเสียเลยจะดีกว่า”

ทั้งนี้ Mercedes-Benz ใช้การประกาศสโลแกนใหม่เพื่อส่งสัญญาณเป็นนัยว่าภายในปี 2011 จะมีการกรีฑาทัพเข้าโจมตีตลาดรถพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง
ด้วยรถรุ่นใหม่ถึง 16 รุ่น พร้อมทั้งการติดตั้งเทคโนโลยี Start/Stop ซึ่งดับเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติเมื่อรถติด และสตาร์ทเองอีกครั้งเมื่อออกตัว ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถยนต์จาก Mercedes-Benz ทุกคัน ส่วนข่าวดีสำหรับคนรักความสนุกในการขับขี่ก็คือเครื่องยนต์หัวฉีดตรง BlueDirect ซึ่งจะเผยโฉมในอนาคตอันใกล้นี้ ทางเลือกใหม่มีความจุให้เลือกสองพิกัด พิกัดเล็ก 3.5 ลิตร V6 306 แรงม้า และพิกัดใหญ่ 4.6 ลิตรทวินเทอร์โบ 435 แรงม้า ที่ฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่แรงบิด 700Nm นั้นเท่ากับรถ AMG ในตำนานอย่าง E55AMG Kompressor แห่งปี 2003 นั่นก็เท่ากับว่าเครื่องบล็อคใหม่ที่ความจุเล็กลงมากนี้จะให้สมรรถณะในการขับขี่ได้ใกล้เคียงกัน แต่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิมถึง 24% และปล่อยมลภาวะน้อยกว่า

ผู้ติดตามข่าวและสาวกดวงดาวทั่วโลกต้องติดตามกันต่อไปว่าการปรับทั้งภาพลักษณ์ เทคโนโลยี และสโลแกน จะผลักให้ Mercedes กอบโกยกำไรแข่งกับค่ายอื่นๆได้ดีมากหรือน้อยเพียงไร แต่ถ้าอยากชมภาพยนตร์โฆษณาที่ว่า ลองเข้า Youtube ดู หรือไม่ก็ คลิกเข้าไปที่ www.thebestornothing.com

—————————————————–///—————————————————

 

Source:  worldcarfans.com