วันนี้มีภาพหลุดคาดว่าเป็นรถคันจริงของ Toyota Hilux REVO Big-Minorchange จากเว็บไซต์ MileleMotors จาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระบะ Hilux REVO Minorchange พรางตัววิ่งทดสอบในไทย โดยกำหนดการเดิมของการเปิดตัวในประเทศไทย จะอยู่ในช่วงเดือน มิถุนายน ที่จะถึงนี้ ถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

Toyota Hilux Revo เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย ครั้งแรกในโลก เมื่อ เดือน พฤษภาคม 2015 หลังจากเปิดตัว กระแสตอบรับไม่ได้ดีมากอย่างที่คิด เมื่อเปรียบเทียบกับการเปิดตัว Hilux Vigo ครั้งแรกเมื่อปี 2004 หลายเสียงบ่นว่าดีไซน์ด้านหน้ารถนั้น ยังต้องปรับปรุง ตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา มีการปรับอุปกรณ์ เพิ่มรุ่นย่อย ออกรุ่นตกแต่งพิเศษกันไปบ้างแล้ว

จากนั้นมีการเปิดตัวกระบะ Hilux Revo Minorchange ในเวลาอันรวดเร็วแบบไม่เคยมีมาก่อน เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2017 ปรับเปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าใหม่ พร้อมแนะนำรุ่นย่อยใหม่ ตกแต่งแบบ Off-Road ” Revo ROCCO (รีโว่ ร็อคโค่) ” มาในเวลาพร้อมๆกัน จากนั้นเพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ให้กับรุ่น ROCCO ในเดือน สิงหาคม 2018 และ เป็นเจ้าแรกที่ประกาศรองรับน้ำมันดีเซล B20 เมื่อเดือน เมษายน 2019

จากนั้นมีการเปิดตัว REVO featECU SHOP ติดตั้งกล่องเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ รุ่น ULTRA BOOST สำหรับ Toyota Hilux Revo ทั้งเครื่องยนต์ ดีเซล 2.4 ลิตร และ ดีเซล 2.8 ลิตร GD Efficient Boost โดยกล่องเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ จะทำงานร่วมกับ ECU หลักของเครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มพละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า 516 นิวตันเมตร เปิดตัวเมื่อ พฤศจิกายน 2019

ทำตลาดมาได้เกือบ 5 ปี คราวนี้ต้องทำการ Big-Minorchange อีกครั้ง เนื่องจากคู่แข่งคนสำคัญอย่าง All NEW Isuzu D-max เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2019 ที่ผ่านมา และ ทำยอดขายในปี 2020 แซงหน้า Hilux Revo ไปค่อนข้างทิ้งห่าง ทำใหต้องมีการปรับสู้ศึกหนักในครั้งนี้ โดยกำหนดการเดิมของการเปิดตัวในประเทศไทย จะอยู่ในช่วงเดือน มิถุนายน ที่จะถึงนี้ ถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

รายละเอียดความเปลี่ยนแปลงเบื้องต้นของ Toyota Hilux REVO Big-Minorchange 

• ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-Beam LED Projectors
  • Bi-Beam LED Projectors ดีไซน์ใหม่ สำหรับ รุ่น E-Plus / G
  • Multi-Reflector ดีไซน์ใหม่ สำหรับรุ่น J / J Plus / E
• กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่
• ฝากระโปรงหน้า ดีไซน์ใหม่
• กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
• ล้ออัลลอย เพิ่มขนาด จาก 17 นิ้ว เป็น 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
  • ล้อ 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ สำหรับรุ่น E / E Plus
  • ล้อ 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ สำหรับรุ่น G
• ไฟท้าย ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Light Guiding

ขุมพลังของ Toyota Hilux REVO Big-Minorchange ยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล รหัส GD ใหม่ เหมือนเช่นเคย แต่อาจมีการปรับปรุงสมรรถนะให้แรงขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดถึงตัวเลขสุดท้าย ทั้งแรงม้า – แรงบิด ว่าจะเป็นเท่าไหร่

Engine เครื่องยนต์

ดีเซล 2.4 ลิตร (5MT / 6MT)

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2GD-FTV ขนาด 2.4 ลิตร 2,393 ซีซี. VN-Turbo กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 92.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.6 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ / เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ

ดีเซล 2.4 ลิตร (6AT)

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2GD-FTV ขนาด 2.4 ลิตร 2,393 ซีซี. VN-Turbo กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 92.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.6 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

นอกจากปรับปรุงสมรรถนะแล้ว อาจจะยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota SAFETY SENSE มาให้อีกด้วย

• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบเสริมแรงเบรก BA
• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA
• สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
• ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-หัวเข่าคนขับ)
• ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง TPMS
• ระบบความปลอดภัยก่อนเกิดเหตุ Toyota Safety Sense
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam Control
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน และ เบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Keeping Assist
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control

รายละเอียดทั้งหมดของ Toyota Hilux REVO Big-Minorchange ติดตามได้ในช่วงเดือน มิถุนายน 2020 ที่จะถึงนี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ

ที่มาภาพหลุด : MileleMotors

เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.headlightmag.com