อุปกรณ์มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของรถยนต์ ที่จำหน่ายในญี่ปุ่นจะสูงขึ้นอีกระดับ เนื่องจากภาครัฐได้ออกกฎใหม่บังคับให้รถยนต์ใหม่ที่เปิดตัวหลังวันที่ 1 เมษายน 2020 เป็นต้นไป ต้องมีระบบเปิดไฟหน้าอัตโนมัติ โดยสิ่งที่แปลกคือ ระบบจะต้องไม่ให้ผู้ขับขี่สั่งปิดไฟได้ในเวลาที่แสงน้อย ขณะที่ขับขี่รถยนต์อยู่
สาเหตุที่ต้องมีกฎนี้ขึ้นมา เนื่องจากมีธรรมเนียมที่ผู้ขับขี่รถยนต์ชาวญี่ปุ่นหลายคนปฏิบัติคือ ปิดไฟหน้ารถยนต์ในขณะที่จอดติดไฟแดงอยู่ เพราะเกรงว่าไฟหน้ารถยนต์ของตนจะไปแยงตารถยนต์ฝั่งตรงข้าม แล้วปัญหาเกิดตรงที่ว่า มีผู้ขับขี่หลายรายลืมเปิดไฟ เมื่อไฟเขียวและขับออกไปทั้งอย่างนั้น ซึ่งนั่นอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ไม่ใช่ต่อผู้ขับขี่เองเท่านั้นที่มองทางไม่เห็น แต่ยังรวมถึงผู้ขับขี่รายอื่น และคนเดินถนนที่มองไม่เห็นรถยนต์ด้วย
ข้อบังคับใหม่นี้ยังสอดคล้องกับกฎ UN Regulation 48 ที่ออกกฎให้ระบบเปิดไฟหน้าอัตโนมัติทำงาน ภายในเวลาสองวินาที หลังแสงสว่างลดลงเหลือ 1,000 lux หรือ ช่วงที่แสงมีในเวลาประมาณ 15 นาทีก่อนพระอาทิตย์ตก ในวันที่อากาศแจ่มใส และ ปิดอัตโนมัติภายในเวลา 5 – 300 วินาที เมื่อแสงสว่างมากกว่า 7,000 lux ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องมีแสงสว่างเพิ่มเติม
ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2014 ระบุว่ารถยนต์ที่ออกจำหน่ายในญี่ปุ่น 30% มีระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ซึ่งเป็นแบบที่เราคุ้นชินคือผู้ขับขี่ยังปิดเองได้ แต่ระบบใหม่ที่จะบังคับใช้จะไม่สามารถดับไฟได้ นอกจากดับเครื่องยนต์ หรือ เข้าสู่จุดที่มีแสงสว่างเพียงพอถึงจะดับไฟได้ นอกจากนั้น ยังมีการระบุถึงข้อบังคับของรถยนต์ประเภทอื่นด้วย
- รถยนต์นั่งรุ่นปัจจุบันที่ออกขายในขณะนี้ ยังออกจำหน่ายต่อไปได้ แต่จะต้องติดตั้งระบบไฟหน้าเปิดอัตโนมัติ ภายในเดือนตุลาคม 2021 ถึงจะทำตลาดต่อได้หลังจากนั้น
- รถบัส 11 ที่นั่งขึ้นไป หรือ รถบรรทุกที่น้ำหนักมากกว่า 5 ตัน ที่เปิดตัวใหม่ตั้งแต่เดือนเมษายน 2021 จะต้องติดตั้งระบบไฟหน้าเปิดอัตโนมัติ
- รถบัสและรถบรรทุกทั้งหมด จะต้องมีระบบดังกล่าว นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023
ที่มา: drivingvisionnews, carscoops