Toyota RAV4 Prime ถือเป็น RAV4 รุ่นแรกที่ได้ใช้ขุมพลัง PHEV ผสานกับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร จนคว้าตำแหน่ง RAV4 ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมากับ พละกำลังทะลุเพดาน 300 แรงม้า และยังประหยัดมากที่สุดด้วย เพราะสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว เป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตร
Toyota RAV4 Prime มาพร้อมกับกระจังหน้า และสเกิร์ตข้างทรงเฉพาะรุ่น ตัดด้วยสีดำ Piano Black รอบคัน เสริมด้วยทางเลือกหลังคาสีดำ ล้อมีขนาด 18 – 19 นิ้ว ในรุ่นท็อปจะเพิ่ม DRL แบบ LED แนวตั้งในกันชนหน้ามาให้ ส่วนไฟหน้าสามารถเพิ่มระบบปรับระดับอัตโนมัติ และเลี้ยวตามการหมุนของพวงมาลัยได้
ห้องโดยสารมีหลังคา Moonroof ส่วนวัสดุหุ้มเบาะใช้หนังสังเคราะห์ SofTex เสริมด้วยอุปกรณ์ที่มีเป็นครั้งแรกใน RAV4 อย่าง Paddle Shift และ หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานอื่นมีทั้ง เครื่องเสียง JBL, ระบบชาร์จไร้สาย, กระจกมองหลังตัดแสง และ ระบบควบคุมประตูโรงรถจากในห้องโดยสาร
ขุมพลังของ Toyota RAV4 Prime เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร Atkinson-cycle ยกมาจาก RAV4 Hybrid พร้อมปรับแต่งใหม่ กำลังสูงสุด 176 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 2,800 รอบ/นาที เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งด้านหลัง และ แบตเตอรี่ Lithium-Ion ติดตั้งใต้ท้องรถ เมื่อรวมทั้งระบบกำลังสูงสุดอยู่ที่ 302 แรงม้า
ระบบขับเคลื่อนเป็น 4 ล้อ Electronic On-Demand All-Wheel Drive (AWD) ทำอัตราเร่ง 0 – 96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.8 วินาที การขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ทำได้สูงสุด 62 กิโลเมตร ส่วนระบบความปลอดภัยมี Toyota Safety Sense (TSS 2.0) ที่ควบรวมหลายระบบเข้าด้วยกันรวมทั้ง ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ ตรวจจับคนเดินถนนได้ และ ระบบล็อคความเร็วแบบแปรผันตามรถยนต์คันหน้า
Toyota RAV4 Prime เปิดตัวในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ส่วนกำหนดการออกจำหน่าย จะเริ่มขึ้นในไตรมาสที่สามของปี 2020 เบื้องต้นมีรุ่นย่อยให้เลือกระหว่าง SE และ XSE ทุกคันมาพร้อมการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่นาน 10 ปี หรือ 150,000 ไมล์ (241,401 กิโลเมตร)
ที่มา: Toyota