การนำเครื่องยนต์รถยนต์รุ่นใหม่ไปวางในรถยนต์รุ่นเก่า เป็นสิ่งที่พบเจอได้ทั่วไป แต่การกระทำดังกล่าวอาจมีวิวัฒนาการสู่การนำขุมพลังไฟฟ้า EV มาติดตั้งในรถยนต์รุ่นโบราณซึ่ง Chevrolet ได้พิสูจน์ด้วยการพัฒนารถยนต์ต้นแบบนาม Chevrolet E-10 Concept ขึ้นมา ทั้งยังพกพากำลังมาสูงถึง 450 แรงม้า

Chevrolet E-10 Concept ได้สงวนความโบราณของกระบะ C-10 ปี 1962 เอาไว้ และผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตามสไตล์การทำรถ Hot Rod โดยภายนอกได้เก็บงานจนเรียบร้อย สอดไส้รายละเอียดความทันสมัยกับ โลโก้กระจังหน้าแบบเปล่งแสงได้ พร้อมเปลี่ยนไปใช้ไฟหน้าและไฟท้าย LED ปิดท้ายด้วยการโหลดเตี้ยเสริมภาพลักษณ์กระชากวัย

ล้อเปลี่ยนใหม่ มีขนาด 20 นิ้ว กว้าง 9 นิ้ว ในด้านหน้า และ 10 นิ้ว ในด้านหลัง กระบะหลังมีฝาท้ายครอบ เปิดปิดได้พร้อมโช๊คค้ำ ส่วนห้องโดยสารระบุว่ายังใช้แดชบอร์ดเดิม เสริมด้วยมาตรวัดสมัยใหม่ ที่แสดงค่าการทำงานของระบบ EV และเก็บงานรอบคันด้วยการหุ้มหนังสีครีม

ขุมพลังของ Chevrolet E-10 Concept เป็นระบบไฟฟ้า EV ที่บริษัทตั้งชื่อว่า eCrate ประกอบด้วย มอเตอร์ขับเคลื่อนติดตั้งใต้ฝากระโปรงหน้า และ แบตเตอรี่ขนาด 400 โวลต์ จำนวน 2 ชุด อยู่ในกระบะหลัง กำลังสูงสุดรวมกันราว 450 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SuperMatic 4L75-E ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหลัง สมรรถนะอัตราเร่ง 0 – 96 กิโลเมตร/ชั่วโมง อยู่ที่ราว 5 วินาที ส่วนเวลา Quarter Mile อยู่ในพิกัด 13 วินาทีแก่ๆ

เพื่อไม่ให้เสียอรรถรสในการขับขี่ ทีมงานได้ติดตั้งลำโพง 3 ชุด อยู่ที่ด้านหน้ารถหนึ่งชุด และท้ายรถสองชุด ไว้ส่งเสียงคำรามของเครื่องยนต์จำลอง โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับได้ 5 แบบ ประกอบด้วย LS7 Z28 track tuning, LS7 Z28 touring tuning, เครื่องยนต์ V8, เสียงที่ฟังดูล้ำอนาคต และ ปิดเสียงเงียบ

ทางการระบุว่าการพัฒนา Chevrolet E-10 Concept ใช้เวลาเพียง 18 สัปดาห์เท่านั้น นับตั้งแต่การริเริ่มแนวคิด จนถึงขั้นตอนการพัฒนารถยนต์ต้นแบบคันจริง โดยมีโจทย์เป็นการแสดงความเป็นไปได้ของการนำรถยนต์ Classic มาใช้งานต่อ โดยที่ไม่สร้างมลพิษ ทั้งยังเป็นการต่อยอดเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว สู่ความเป็นไปได้อีกรูปแบบหนึ่ง

 

ที่มา: Chevrolet