ในวันเปิดงานรอบประชาชน ของงาน Motor Expo ย้อนไปเมื่อเดือนธันวาคม 2006       
งานคราวนั้น ผมมีโอกาสได้ทดลองขับ Honda CR-V เจเนอเรชัน 3 ก่อนใคร
แม้เพียงสั้นๆ นิดเดียว แต่ก็ช่วยให้ได้รับรู้อะไรของตัวรถได้พอสมควร

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินกลับเข้า ตัวอาคาร Challenger Hall
และกำลังจะเดินไปหาอะไรกิน เป็นมื้อเที่ยง

ระหว่าง เดินผ่านหน้าบูธฮอนด้า มีชายหนุ่มร่างเจ้าเนื้อกำลังดี เดินยิ้มเข้ามาแนะนำตัว
แล้วก็บอกว่า ติดตามอ่านสิ่งที่ผมเขียน ใน pantip.com ห้องรัชดา มานานแล้ว

นามบัตร เขียนระบุว่า
ชื่อ สุวิชชา ลีนุตพงษ์ (หรือ คุณ โต)
Executive Director
MTM Motoren Technik Mayer (Thailand) Co.,ltd.

ซึ่งก็คือ เจ้าของเดียวกับ บริษัทเดียวกันกับที่นำเข้ารถสปอร์ต Spyker
มาขายในบ้านเราจนกลายเป็นไฮไลต์เด่นของ Motor Expo ในปีนั้นเองละครับ!

เหอ! ยังหนุ่มยังแน่นเนี่ยนา! ก็คุยๆกันนิดหน่อยละครับ
แล้วคุณโต ก็ส่งแค็ตตาล็อก Spyker มาให้ 1 เล่ม

พอทานมื้อเที่ยงกับ Homy Demio และตากอฟท์ BIZZARE ที่พากันไปเดินเล่นในงานแก้เซ็ง เรียบร้อย
ก็เลยกลับเข้างาน เดินแวะไปดูรถทื่บูธ MTM / Spyker กันหน่อย….

เข้าไปลองนั่งดู..เอ้ย น่าขับกว่าที่คิดแหะ เจ้า A3 MTM เนี่ย…. เฮ้อ ถ้าได้ลองขับจริงก็ดีแหะ

แค่คิด และเผลอเอ่ยปากออกไป คุณโต ก็จัดให้!!

ผมก็เหวอสิครับทุกท่าน!

ก็ใครจะไปนึกเล่าครับว่า
รถคันสีฟ้า ที่เมื่อวันก่อน เพิ่งจะเห็นขับเข้างาน
คันเดียวกับที่ผม “กรี๊ดดดดด สลบ” ในวันก่อนหน้านั้น
ผมจะได้ลองขับเต็มๆ ในอีก สองวันถัดมา!!
และอย่างไม่นึกไม่ฝันเสียด้วย!!!!

A3 คันนี้ ไม่ได้นำเข้ามาโดยตรงผ่านทาง เครือของยนตรกิจ ครับ
แต่ นำเข้ามาโดยตรงจากกลุ่มลีนุตพงษ์ ที่มีสายสัมพัน์อันดีกับทาง MTM
ซึ่งมีดีลตรงกับออดี้ อยู่แล้ว

ก็ลองคิดดูง่ายๆๆครับว่า ถ้าไม่มี MTM
เราจะมีโอกาสได้เห็น A3 ใหม่ รวมทั้ง RS4 ใหม่
และยังอาจจะมี R8 ใหม่ ที่รอจ่อคิวเข้าไทย คันแรกในเอเซีย
บนถนนเมืองไทย ด้วยฝีมือของบริษัทในเครือยนตรกิจเอง หรือเปล่า?

อันนี้ ผมเรียนตามตรงว่า ผมตอบให้ไม่ได้จริงๆ

และยิ่งที่ผ่านมา ทางผู้นำเข้าออดี้ ในบ้านเราเอง ก็ดูมิได้ให้ความสนใจอะไรกับผมอยู่แล้ว…

การที่อยู่ดีๆ มีออดี้มาให้ผมได้ลองขับกัน ด้วยความอนุเคราะห์ของคุณโต
ก็ทำให้ผม ได้มีโอกาส รีวิว ออดี้ ลงในพันทิบ ตอนนั้น เป็นครั้งแรงได้ในที่สุด

Audi A3 รุ่นแรกนั้น ถูกสั่งนำเข้ามาตั้งแต่ ช่วงราวๆ ปี 1997-1998 รุ่นที่เห็นกันอยู่นี้
ถือเป็นรุ่นที่ 2 ออกสู่ตลาด ในช่วงเดือนมีนาคม ณ งาน เจนีวาออโตซาลอน
และการที่เราได้พบเห็นรถคันนี้แล่นบนถนนเมืองไทย ถือเป็นเรื่องแปลกตาไปไม่น้อย

มาดูภายในห้องโดยสารกันบ้างดีกว่า

ห้องโดยสาร ออดี้รุ่นใหม่ๆ นั่งแล้วไม่อึดอัดอย่างที่รุ่นเก่าๆเคยเป็นมา
แม้ว่า เส้นสะเอวด้านข้าง ยังคงสูงเหมือน ออดี้รุ่นก่อนหน้านี้ จนกลายป็น
เหมือน เอลักษณ์ทางการออกแบบของค่าย 4 ห่วงนี้ไปแล้ว ก็ตาม ตำแหน่งการ
วางแขน ถือว่า รับได้

หรือเป็นเพราะรถญี่ปุ่นสมัยนี้ พยายามเอาเยี่ยงอย่างรถยุโรปไป
จนรถเส้นสะเอวด้านข้างสูง ในแบรนด์ญี่ปุ่น
มีเพียบ และทำให้ผมเกือบอ้วกมาแล้ว ก็มีครับ

เบาะนั่ง แน่นอนว่า วัสดุดีทีเดียว นังกระชับ พอสบายกำลังดี แต่ยังทำได้ดีกว่านี้อีก ปรับระดับสูงต่ำได้ด้วยก้านโยก

จะว่าไปแล้ว ผมลืมนั่งเบาะหลังแหะ เลยไมได้บอกว่า มันเป็นยังไงบ้าง

เห็นแต่ทางเข้า ซึ่งขนาด ไม่เล็กไม่ใหญ่โตนัก อาจก่อความลำบากเล็กน้อย

ให้กับผู้ที่มีสรีระใหญ้โตกว่าชาวบ้านเขา นิดหน่อย แต่ผู้การแพนองเรา พิสูจน์แล้วว่า นั่งได้แน่ๆ


   
ต้องขอขอบคุณตา BIZZARE ที่เอื้อเฟื้อของประกอบฉาก โดยไม่ตั้งใจ
เป็นกระเป๋าใส่ โน้ตบุ๊ค ของ LOUISE VUITTON (ของแท้)

เบาะนั่งเป็นผ้าแบบสาก เช่นเดียวกับรถนุโรปทั่วไปในยุคนี้ นั่งกระชับตัว
ใช้ได้ ในระดับหนึ่ง พื้นที่เหนือศีรษะ พอมี แต่ไม่ถึงกับสูงมากนัก 

พวงมาลัยกระขับมือ ใช้ได้ อาจจะไม่ถึงกับรถสปอร์ตรุ่น TT
แต่ก็อยู่ในระดับเดียวกับ A4 หรือ A6



***รายละเอียดทางวิศวกรรม และการทดลองขับ ***

เครื่องยนต์ในรุ่นพื้นฐาน ของ A3 5 ประตู ที่ นำเข้ามาในบ้านเรา
เป็นแบบเบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,984 ซีซี FSI
เชื่อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ S-tronic Direct shift

ถ้าจะเริ่มโมดิฟายกันเบื้องต้น กำลังสูงสุด อยู่ที่ 245 แรงม้า (HP) ที่ 5,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 355 นิวตันเมตร (36.17 กก.-ม.) ที่ 1,850 รอบ/นาที

ถ้าโมดิฟายเพิ่มเติมเป็น step 2 เช่นคันสีฟ้าที่ลองขับอยู่นี้
จูนกล่อง ECU เปลี่ยนชุดท่อไอเสีย รวมทั้งแคตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ด้วย
กำลังสูงสุดจะเพิ่มเป็น 272 แรงม้า (HP) ที่ 5,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด เพิ่มเป็น 370 นิวตันเมตร (37.7 กก.-ม.) ที่ 1,850 รอบ/นาที

 แต่ถ้ายกระดับเป็น step 3 กำลังสูงสุดจะเพิ่มเป็น 313 แรงม้า (HP) ที่ 5,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด เพิ่มเป็น 395 นิวตันเมตร (40.25 กก.-ม.) ที่ 1,850 รอบ/นาที

แค่ดูสเป็กแรงม้า แรงบิด ผมก็หนาวแล้วครับ..หึหึหึ

และเพื่อเพิ่มความปลอดภัย รองรับสมรรถนะที่สูงขนาดนี้
ดิสก์เบรกเดิมๆ คู่หน้า ถูกเปลี่ยนเป็น Brembo 4 POT
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 330 x 32 มม.

ส่วนเบรกคู่หลัง ไม่ได้เปลี่ยนครับ เดิมๆ มาเลย

ระบบกันสะเทือนของรถคันสีฟ้านี้ ณ วันที่ลองขับกัน
ไม่ได้มีการปรับเซ็ต ไม่ได้เปลี่ยนอะไร มาแบบเดิมๆ
มาเจอกับ ล้อ MTM พร้อมยางขนาด 235/35ZR19

เอาละ มาดูประสบการณ์การขับขี่กันดีกว่า

ขอบอกว่า ความเร้าใจนั้น ที่เทียบกันได้แค่ใกล้เคียง นั้น
ก็คงจะเป็น Saab 9-3 Aero เท่านั้น

และแน่นอนว่า A3 Sportback MTM 272 HP ตัวนี้
แรงกว่า 9-3 Aero แบบชัดเจนเห็นๆ แถมยังขับคล่องตัวกว่านิดนึง

นั่งกัน 4 คน น้ำหนักตัว ผมว่า มีหย่อนๆ 350 กิโลกรัมไปไม่เท่าไหร่นักหรอก

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ตัวเลขในโบรชัวร์ เคลมว่า 6 วินาที
แต่ เจอเรานั่งกัน 4 คน รวมคุณโต เข้าไป มีประมาณ 7 วินาทีปลายๆ
จนถึง 8 วินาที ต้นๆ ครับ ผมนับแค่คร่าวๆ ไม่ได้ใช้นาฬิกาจับเวลา

โอ้ สะใจทีเดียว! แรงดึงกระชากออกไป เร้าใจใช้การได้กำลังดี
และขับง่ายกว่าที่ผมคิดไว้พอสมควรแหะ

น้ำหนักพวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรง
ที่เบากว่า Saab 9-3 Aero ในช่วงคลานด้วยความเร็วต่ำ แต่แน่นอนว่า
นิ่งสงบและมั่นใจได้ในย่านความเร็วสูง

ท็อปสปีด ตัวเลข MTM เคลมว่า 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ผมก็ลองกดขึ้นไปดูเหมือนกัน
ได้ลองมากไปกว่าตัวเลขที่เห็นนี้นิดหน่อยครับ
ขึ้นไปถึงประมาณ 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง แล้วจังหวะก็ไม่ให้อีกเลย ต้องถอนลงมา
ตัวเลขตัวใหญ่หนะ ไมล์/ชั่วโมงนะครับ แหะๆ

รอบเครื่องยนต์ ป้วนเปี้ยนแถวๆ 4,000 – 6,000 รอบ/นาที
เป็นหลัก แทบตลอดที่เราเดินทางกัน ไปทางเชียงราก
แล้ววนกลับมาลงที่เมืองทองธานี ครับ

อ้อ ยืนยันอีกทีว่า ไม่แนะนำให้ใครมาทำตามอย่างนะครับ
ผมทำเพื่อการทดลองหาสมรรถนะของตัวรถเท่านั้น


    
ช่วงล่าง เดิมๆ รองรับความเร็วแบบนี้ได้ดี
มันทำให้ผม ขับได้ไม่เหนื่อยนัก คือผมชอบช่วงล่าง
แบบที่ติดมากับรถอย่างนี้

แต่ถ้าสำหรับคนที่รักความเร็ว และอยากได้ฟิลลิ่งรถสปอร์ต
อาจจะไม่ชอบช่วงล่างที่นุ่มแน่นไปนิดนึงแบบนี้
และอยากได้ช่วงล่างที่แข็งกว่านี้อีกนิดนึง

ซึ่งเรื่องนี้ผมว่า MTM เตรียมพร้อมรอไว้อยู่แล้ว อย่างน้อยๆ ก็เพื่อว่า
เวลาเจอคอสะพาน ล้อหลังก็จะได้ไม่ต้องครูดกับขอบซุ้มล้อ
เหมือนอย่างที่เจออยู่ในรถคันนี้นั่นเอง

********** สรุป **********
รถขับสนุกๆ พิกัด Premium Compact ที่แรงเร้าใจ อีกคันหนึ่งบนถนนเมืองไทย
ไม่น่ามองข้าม (ถ้าคุณมีเงิน และมีรถในบ้านอย่างน้อย 1-2 คันอยู่แล้ว)

ผมชอบ ออดี้ เหมือนกันครับ แต่ต้องเป็นรุ่นใหม่ๆ
และ 1 ในรุ่นใหม่ที่ผมชอบ และอยากลองขับอยู่คือ
A3 S3 RS4 RS6 รวมทั้ง R8 จะเป็นขุมพลังบล็อกไหนก็ตาม

พอได้มีโอกาสลองแล้ว ก็เชื่อว่า ไม่ผิดหวังกับรถสมรรถนะดีอย่างออดี้

ส่วนบริการหลังการขาย?
MTM เขามีศูนย์ของเขาเองที่สุขุมวิท 101
ซึ่งผมว่า สำหรับผู้มีอันจะกิน และมีรถอยู่ในบ้านหลายคันอยุ่แล้ว
และอยากได้ความสนุกในชีวิต แต่ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ผมว่าก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

และยิ่ง ทาง MTM เองก็ ถึงขั้นจะมีรถ สเป็กพิเศษ “Bangkok Tune” ส่งมาให้เร็วๆนี้
ยิ่งทำให้ความน่าสนใจ ก็เพิ่มมากขึ้น แต่ MTM เองก็ต้องพยายามสู้กระแสความนิยม
ของรถยุโรปค่ายอื่นๆ ให้ได้เหมือนกัน

ลองมาดูราคากันสักหน่อยไหมครับ

A3 MTM TDI 3 Door 176 HP = 2,790,000 บาท* ตัวนี้ผมว่าน่าสนใจ เพราะว่า นำเข้าทั้งคัน และเซ็ตราคาไว้
เท่าๆกับ ซื้อ C-Class ประกอบในประเทศ
318 i / 320 i SE ประกอบในประเทศ
หรือ Saab 9-3 รุ่นกลางๆ 150-195 แรงม้า

A3 MTM Sportback 245 HP = 3,390,000 บาท
A3 MTM Sportback 272 HP = 3,750,000 บาท
A3 MTM Sportback 313 HP = 4,250,000 บาท

หรือถ้าอยากได้ตัวแรงกว่านั้น
ก็ต้องเป็น RS4 ถ้าเอาแค่ 420 HP = 7,250,000 บาท
แต่ถ้าเอาแรงม้าระดับ 500 + (ซึ่งใบราคาก็ไม่ได้ระบุด้วยว่า บวกไปอีกเท่าไหร่) = 8,990,000 บาท

ราคานี่ กรี๊ดซาหลบ จริงๆ สำหรับ A3 ในแง่ที่ว่า
บางรุ่น ถือว่าถูกนะ แต่สำหรับ RS4 โอ้ หนาวดึงส์เลย
ราคาเท่ากับ S320CDI โฉมล่าสุด

ขึ้นกับว่าคุณอยากจะซื้อรถสไตล์ไหนแล้วละ

——————————-


ขอขอบคุณ
คุณสุวิชชา ลีนุตพงษ์ แห่ง MTM Thailand
สำหรับการมอบโอกาสทดลองรถที่ผมอยากลอง
อย่างไม่คาดฝันเช่นนี้

J!MMY
สงวนลิขสิทธิ์
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกใน Pantip.com ห้องรัชดา 3 ธันวาคม 2006
นำมาดัดแปลงอีกครั้ง เพื่อนำเสนอใน www.Headlightmag.com
28 เมษายน 2010

Copyright (c) 2006,2010 Text and Pictures
Use of such content either in part or in whole without permission is prohibited.
First publish in Pantip.com (Ratchada Cafe) December 3rd,2006
Re-publish in www.Headlightmag.com in April 27th,2010