หรือว่าโลกของรถไฟฟ้ามันกำลังจะมาถึงเมืองไทย? เราตั้งคำถามนี้เมื่อได้เห็นภาพแอบถ่าย Nissan e-NV200 วิ่ง
ทดสอบอะไรบางอย่างบนท้องถนนเมืองไทยซึ่งทำให้เราแอบนึกถึงข่าวย้อนหลังเก่าหลายประการไม่น้อย เพราะดูแนวโน้ม
แล้ว Nissan ให้ความสนใจในการขึ้นสายการผลิตรถไฟฟ้าในเมืองไทยในระดับหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าปัจจัยสนับสนุนหลาย
อย่างก็ไม่อาจทำให้ Nissan สามารถลงทุนได้ดั่งใจ
หากย้อนข่าวตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฏาคม 2014 ก็พบว่า ทาคาโอะ คาตากิริ รองประธาน Nissan Motor บริหารภาคพื้น
เอเซีย โอเชียเนียและญี่ปุ่น ก็เคยเปรยว่าตลาดอาเซียนมีศักยภาพในการขายรถไฟฟ้าสูงมาก แต่ทว่าโครงสร้างรองรับ ด้าน
ทักษะและกลไกภาครัฐ ทั้งรัฐบาลท้องถิ่น รัฐบาลกลางให้การสนับสนุน หรือการลดหย่อนภาษี โครงสร้างต่างๆ ต้อง
เอื้ออำนวยประกอบกันไปด้วย
แต่ข่าวที่ทำให้สื่อมวลชนหลายคนต้องจับตาคือ คุณจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ถึงขั้นเผย
เลยว่าคุณฮิโรยูกิ โยชิโมโต กรรมการผู้จัดการใหญ่ Nissan Motor ประเทศญี่ปุ่นได้เข้าพบกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อแจ้ง
ให้ทราบว่า Nissan มีโอกาสที่จะเปิดสายการผลิตรถไฟฟ้าในประเทศไทยด้วย
เพียงแต่ คุณจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ได้แสดงความคิดเห็นว่า “แผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเปิดกว้างรับการลงทุน
อยู่แล้ว แต่น่าจะต้องรอให้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ได้รับการพัฒนาทั้ง ประสิทธิภาพ และราคาที่เหมาะสม ก่อน จึงจะมีโอกาส
ที่มาเปิดสายการผลิตในประเทศไทย เพราะปัจจุบันราคาจำหน่ายรถไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นอยู่ที่คันละ 1 ล้านบาท โดยราคา
แบตเตอรี่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 50 ของราคา คาดว่าอาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีประมาณ 10 ปีข้างหน้าและ
รถไฟฟ้าจะมีโอกาสเกิดขึ้นในประเทศไทยได้”
ถ้าหากให้พูดกันตามตรงเลยคือรัฐบาลไม่คิดจะช่วยออกนโยบายสนับสนุนการลงทุนการผลิตรถไฟฟ้าในช่วง 10 ปีนี้
เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นและในสหรัฐอเมริกาเลยแม้แต่น้อย อาศัยรถให้รถไฟฟ้าเป็นสินค้ามาตรฐานเหมือนกับ
รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ขายเหมือนทุกวันนี้เสียก่อน
หรือ ฮิโรยูกิ โยชิโมโตะ อดีตประธาน บริษัท Nissan Motor (ประเทศไทย) จำกัด เคยให้สัมภาษณ์ตามตรงเลยว่า
Nissan ให้ความสนใจกับการเดินหน้าการใช้พลังงานทดแทนสำหรับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (และรวมถึง
เครื่องยนต์ดีเซลสำหรับรถยนต์นั่งด้วย)
เพียงแต่โครงการมันจะก้าวหน้าได้แค่ไหนก็ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล อาทิ การพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภค,
โครงสร้างภาษี โดยเฉพาะภาษีสำหรับรถไฟฟ้าในประเทศไทยยังอยู่ที่ 10% ก็ไม่อาจชดเชยกับภาษีนำเข้าที่ยังสูงอยู่มาก
หากต้องการพัฒนาฐานการผลิตรถไฟฟ้าในเมืองไทยให้ก้าวหน้ามากกว่านี้ Nissan ก็ต้องใช้เวลาศึกษาและระยะเวลา
เตรียมการพอสมควร
สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคเบื้องต้นของ Nissan e-NV200 คือมันจะใช้ระบบขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิคส์ร่วมกับ Nissan
Leaf มีระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการประจุไฟฟ้าให้เต็มใน 1 ครั้งมากถึง 170 กิโลเมตรซึ่ง Nissan อ้างว่ามันเป็นระยะทางวิ่ง
สูงสุดมากกว่าระยะทางเฉลี่ยการใช้งานชีวิตประจำวันของคนทั่วไปถึง 100 กิโลเมตร
เรายังไม่แน่ชัดว่าเจ้าของรถ Nissan e-NV200 คันนี้คือ Nissan Motor หรือหน่วยงานการไฟฟ้าของประเทศไทยกันแน่
แต่ที่แน่ ๆ มันคงต้องเป็นรถทดสอบเพื่อประเมินหวังผลอะไรบางอย่าง
เครดิตภาพ : Puvanai Man Dardarananda