Toyota Corolla เจเนเรชั่นที่ 10 เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งานกวางเจา ออโตโชว์ 2006 เสียงก่นบ่นทั่วสารทิศจากผู้ที่คาดหวังสูงว่าน่าจะพลิกโฉมหน้าของรถคอมแพคท์ขายดีของตนเองให้เลิศมีหน้ามีตาเหมือน Honda Civic และ Mazda 3 กับเขาบ้าง

หากคิดในมุมกลับ Toyota Corolla จัดเป็นตระกูลรถที่เก่าแก่มากร่วม 40 ปีแล้วยืนหยัดจุดเด่นรับใช้ลูกค้าทั่วโลกมาตลอดคือคุณภาพเป็นที่ยอมรับ, สามารถใช้กันได้ทุกคน, ทนทานและซ่อมบำรุงรักษาง่าย, สมรรถนะดี,ประหยัดน้ำมัน

 
 

แม้บางเจเนเรชั่น 8 น่าจะเป็นเจเนเรชั่นที่ถูกต่อว่าต่อขานในเรื่องการลดต้นทุนมากที่สุดแต่มันก็ยังมีบุคลิคความเป็น Corolla อยู่จวบจนเจเนเรชั่นที่ 9 Toyota ขอยกระดับตนเองไปอีกขั้นสู่ความมีสไตล์ที่หรูหราและขนาดตัวถังก็ใหญ่ขึ้นไปอีกระดับซึ่งถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของรถ C-Segment เจเนเรชั่นถัดไปใหญ่ขึ้นอีกระดับ

หาก Toyota ยอมทุ่มงบฉีกรูปแบบที่แตกต่างไปจากเจเนเรชั่นที่ 9 ซึ่งฉีกความเป็น Corolla มากกว่าที่เป็นอยู่ ก็น่าจะเสียกลุ่มลูกค้า Corolla เก่าก็เป็นไปได้ หากฉีกแล้วไม่โดนใจลูกค้าชะตากรรม Corolla ก็อาจจะมีบั้นปลายชีวิตที่สั้นลงเข้าไปอีกเพราะการประคองตระกูลรถที่มีมานานกว่า 40 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย

 
 

แต่ไม่ว่าใครจะบ่นว่าอย่างไรยอดขายก็พอเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าท้ายที่สุด Toyota Corolla มียอดขายทิ้งห่าง Honda Civic ไปไกลในช่วงกลางอายุทั้งในตลาดอเมริกาและตลาดประเทศไทย ซึ่งก็ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนมากนัก

ช่วงเวลานี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีของ Corolla พอดิบพอดี ในตลาดยุโรปเพิ่งจะเปิดตัวโฉมไมเนอร์เชนจ์ไปหมาด ๆ นั่นทำให้เราแปลกใจว่าทำไม Toyota ถึงไม่ส่งรถคันนี้ไปอวดโฉมในงาน Beijing Autoshow 2010 เหมือนครั้งก่อนที่อวดโฉมครั้งในจีนมาแล้ว นั่นทำให้เราไม่แน่ใจว่า Toyota คิดจะแยกโฉมหน้าตลาดยุโรปและตลาดเอเชีย เหมือนสมัยเจเนเรชั่นก่อน ๆ หรือไม่

 
 

ตลาดยุโรปเฉพาะปี 2009 Toyota Corolla กวาดยอดขาย 62,000 คันดูไม่มากมายนักเมื่อเทียบกับ Volkswagen Golf แต่ Toyota ยังยืนยันว่า Corolla คือตระกูลรถซีดานคอมแพคท์ที่ขายดีที่สุดในโลกครับ เพราะคู่แข่งฝั่งยุโรปเน้นพัฒนารถคอมแพคท์แฮทช์แบคเพราะคนยุโรปนิยมรถท้ายตัดมากกว่า

 
 

Toyota จัดการรถขายดีของตนให้ดูสวยโฉบเฉี่ยวขึ้นด้วยชุดกระจังหน้าลายใหม่ที่ออกแบบดูละม้าย Toyota Avensis ซีดานระดับ D-segment ปรับระดับช่องรับลมกระจังให้กว้างขึ้น สังเกตจากพื้นขอบกระจังหน้าที่มีขอบต่ำกว่ารุ่นปัจจุบันพร้อมกันชนหน้าในตัว (Built-in)ทรงใหม่ดูคล้ายกันชนหน้า Prius รุ่นปัจจุบัน

งานนี้ Toyota ลงทุนออกแบบกันชนหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น สังเกตบริเวณรอยหยักไฟหน้าให้ดีครับ Toyota ฉลาดที่จะเล่นเส้นมิติจากตรงนี้ รวมทั้งออกแบบสันกันชนหน้าบริเวณใต้ไฟหน้าให้มีขอบสันต่ำกว่ารุ่นปกติทำให้ตัวรถดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น

ไฟหน้าก็ได้รับการเปลี่ยนใหม่ให้ดูมีเส้นสายคมชัดและกะทัดรัดลงเล็กน้อยแทนที่ไฟหน้าตัวเก่าที่ดูเทอะทะและดูเหมือนมันจะละลายกองกับพื้นเสียมากกว่า

 
 

ด้านท้ายอย่าคาดหวังว่าจะเปลี่ยนชุดเปลือกตัวถังเช่นเคย แต่อย่างไรก็ตาม Toyota ก็ลงทุนออกแบบไฟท้ายชุดใหม่ทรงกระชับมากกว่าไฟท้ายรุ่นเดิมที่ทำเป็นหยดย้อย ๆ  พร้อมทั้งเปลี่ยนลวดลายโคมไฟที่ดูล้ำสมัยขึ้นมาก หากสังเกตให้ดีพบว่าชุดแผงทับยังเป็นชุดเดิมเพียงแต่เปลี่ยนลวดลายแผงไฟใหม่เท่านั้น และกันชนท้ายก็ไม่สามารถใช้ร่วมกับรุ่นเก่าได้เพราะโคมไฟท้ายรุ่นใหม่จะเป็นคนละทรงกับรุ่นเก่านั่นเอง

ภายในห้องโดยสาร Corolla เวอร์ชันยุโรปตามปกติมักจะดูหรูมีชาติตระกูลมากกว่าเวอร์ชันเมืองไทยมากทั้งมาตรวัดกราฟิคตระการตาและทรงพวงมาลัยที่ดูน่าขับขี่ แต่ถึงอย่างไรในเมื่อมันเป็นรุ่น Minorchange ของฝรั่งเขาขืนไม่ปรับก็คงโดนลูกค้าต่อว่าอีกเช่นเคย

 
 

Toyota จึงเปลี่ยนทรงพวงมาลัยเล็กน้อยให้มือจับที่เรียบอยู่ด้านล่างพร้อมหุ้มหนังให้ทั้งรุ่นล่างจนถึงรุ่นบน, กริปจับทั้งหนาและถนัดมือมากยิ่งขึ้น

มิเตอร์วัดศูนย์รวมสามารถเปลี่ยนสีได้ตั้งแต่สีอำพันจนไปถึงสีขาว, แผงอุปกรณ์และมือจับด้านประตูเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ดูหรูหราขึ้น, บริเวณที่ตกแต่งสีเงินจะสว่างมากขึ้นเข้าไปอีก

อุปกรณ์ภายในห้องโดยสารก็ติดตั้งเครื่องเสียง CD/FM/AM ช่องเสียง USB และ AUX ลำโพง 6 ตัวรอบคัน, ติดตั้งหน้าจอเล็ก 3.3 นิ้วบนกระจกมองหลังสำหรับถ่ายทอดภาพจากกล้องส่องหลัง

 
 

ขุมพลัง Corolla Minorchange จะใช้เครื่องยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่มทั้งความแรง อัตราสิ้นเปลืองเชื่อเพลิงและผ่านค่าไอเสีย Euro5 ที่ Toyota เรียกกันว่า Optimal Drive

ไล่ตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซินเล็ก 1.33 ลิตร Dual VVT-I และเครื่องเบนซิน 1.6 ลิตร Valvematic รวมไปถึงเครื่องยนต์ดีเซล 1.4 ลิตรและ 2.0 ลิตร ซึ่ง Toyota เคลมว่าปล่อยค่าไอเสีย CO2 น้อยที่สุดในคลาส

 
 

สำหรับ Toyota Corolla Altis .ในบ้านเรามีแนวโน้มที่จะได้ใช้โฉมที่เห็นในนี้แต่อาจจะปรับปรุงรายละเอียดบางอย่างเพื่อให้เข้ากับรสนิยมคนเอเชียเช่นเพิ่มแถมโครเมี่ยมกระจังหน้าหรือออกแบบชุดไฟตัดหมอกทรงตั้งให้พอดีกับช่อง เป็นต้น

กำหนดการเปิดตัวคาดว่าจะได้เห็นประมาณปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้าครับ