Ford Everest เวอร์ชั่นออสเตรเลีย ได้รับการปรับปรุงอีกครั้งเป็น Model Year 19.75 โดยชูจุดเด่นเพิ่มระบบความปลอดภัยหลายรายการ ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ครอบคลุมทั้ง Ambiente, Trend และ Titanium ที่ผลิตหลังเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ส่วนอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ มีรายละเอียดดังนี้
- ระบบเบรกอัตโนมัติ พร้อมตรวจจับคนเดินถนน Pre-Collision Assist with Pedestrian Detection
- ระบบรักษาตัวรถยนต์ให้อยู่ในช่องจราจร พร้อมแจ้งเตือนผู้ขับขี่ Lane Keeping Aid with Driver Alert System
- ระบบจดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition
- ระบบปรับระดับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam
ขุมพลังของ Ford Everest เวอร์ชั่นออสเตรเลีย มีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือก 2 แบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- 3.2 TDCi
แบบ 5 สูบ ขนาด 3.2 ลิตร 3,198 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 89.9 x 100.76 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 194 แรงม้า (PS) ที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หลัง หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
- 2.0 Bi-Turbo
แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.00 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 213 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อคู่หลัง หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
Ford Everest เวอร์ชั่นออสเตรเลีย Model Year 19.75 พร้อมออกจำหน่ายแล้วที่นั่น สนนราคาจำหน่ายซึ่งยังไม่รวม ภาษีนำเข้าของประเทศไทย แบ่งตามประเภทเครื่องยนต์ดังนี้
- 3.2 TDCi ราคา 49,490 – 59,990 ดอลล่าร์ออสเตรเลีย (ราว 1,072,000 – 1,300,000 บาท)
- 2.0 Bi-Turbo ราคา 56,190 – 72,290 ดอลล่าร์ออสเตรเลีย (ราว 1,217,000 – 1,566,000 บาท)