All NEW Mazda 3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น เปิดตัวพร้อม 3 เครื่องยนต์ เบนซิน 1.5 - 2.0 / ดีเซล 1.8 เทอร์โบ

เปิดตัวในบ้านเกิดเรียบร้อยแล้วสำหรับ All NEW Mazda 3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น โดยใช้ชื่อเหมือนกับตลาดโลก ไม่ได้ใช้ชื่อ Mazda Axela เหมือนรุ่นพี่ในอดีต เบื้องต้นมีตัวถังให้เลือกทั้ง 2 แบบ พร้อมขุมพลัง 3 แบบ ทั้งเบนซิน Skyacitv-G, ดีเซล Skyactiv-D ส่วนเบนซิน SPCCI Skyactiv-X ตามมาในช่วงเดือน ตุลาคม นี้ ด้านรายละเอียดมิติตัวถัง มีดังนี้

ตัวถัง 4 ประตู Sedan

ยาว x กว้าง x สูง : 4,660 x 1,795 x 1,445 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ : 2,725 มิลลิเมตร

ตัวถัง 5 ประตู Fastback

ยาว x กว้าง x สูง : 4,460 x 1,795 x 1,440 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ : 2,725 มิลลิเมตร

All NEW Mazda 3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ออกแบบภายใต้แนวคิด Kotoburi ให้เส้นสายดูลื่นไหลและมีชีวิต ไฟหน้า LED ดูปราดเปรียว มาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ ไฟท้ายเป็น LED ทรงกลมคู่ ซึ่งถ้ามองผ่านๆ อาจคิดว่าทั้ง 2 ตัวถังใช้โคมไฟเดียวกัน แต่จุดต่างของรุ่น 5 ประตู อยู่ที่โคมไฟนอกสั้นกว่า และมีติ่งยื่นออกมารับกับวงแหวนไฟ LED ส่วนโคมไฟด้านในมีส่วนบนพุ่งลงด้านล่าง สำหรับสีตัวถังมีให้เลือก 8 สี ดังนี้

สีแดง Soul Red Crystal Metallic
สีเงิน Sonic Silver Metallic
สีดำ Jet Black Mica
สีเทาดำ Titanium Flash Mica
สีเทา Machine Gray Premium Metallic
สีน้ำเงิน Deep Blue Crystal Mica
สีขาว Snowflake White Pearl Mica
สีเทา Polymetal Gray Metallic (เฉพาะตัวถัง 5 ประตู Fastback)

ห้องโดยสารของ All NEW Mazda 3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น มีการตกแต่งโทนสีภายใน 4 โทนด้วยกัน เริ่มต้นกับสีดำ ซึ่งมีทั้งการใช้วัสดุผ้า และ วัสดุหนัง นอกจากนั้น ยังมีโทนสีพิเศษของแต่ละตัวถัง โดยในตัวถัง 4 ประตู Sedan จะมีเบาะหนังสีขาว Pure White ส่วนตัวถัง 5 ประตู Fastback จะมีทางเลือกเบาะหนังสีแดง Burgundy ให้เลือก ด้านวัสดุหนังร่วมพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญอย่าง Shibo

ฐานเกียร์ยังตกแต่งแบบ two-layer ซึ่งมีการนำมาใช้เป็นครั้งแรก เพื่อให้ดูมีมิติขึ้น ส่วนควบคุมต่างๆ ล้วนออกแบบมาให้ผู้ขับขี่ใช้งานง่าย ทั้งยังมีระบบ HMI (Human Machine Interface) และมาตรวัดแบบ Head-up Display เครื่องเสียงมีให้เลือกทั้งแบบ Mazda Harmonic Acoustics พร้อม 8 ลำโพง หรือ ชุดเครื่องเสียง 12 ลำโพง จาก Bose

ขุมพลังของ All NEW Mazda 3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

เบนซิน

SKYCTIV-G 1.5

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 111 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

SKYCTIV-G 2.0

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 156 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า

ดีเซล

SKYCTIV-D 1.8

เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 116 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

SKYACTIV-X

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83.5 x 91.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.0 : 1 พร้อมระบบ SPCCI (Spark-Controlled Compression Ignition) และระบบ mild hybrid จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า หรือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตอนนี้ กำหนดการเปิดตัว Skyactiv-X อยู่ในช่วงเดือน ตุลาคม 2019 และ ยังมีอีกทางเลือกคือ Mild Hybrid

ด้านระบบความปลอดภัยมี Mazda Proactive Safety ที่ทำงานร่วมกับกล้อง, เรดาร์ และเซนเซอร์รอบคัน นอกจากนั้น ยังมีระบบตรวจจับสภาวะผู้ขับขี่ ทำงานร่วมกับกล้องอินฟราเรดที่ติดตั้งในห้องโดยสาร และระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติพร้อมหน่วงพวงมาลัย ในขณะที่มีการจราจรหนาแน่น Cruising & Traffic Support (CTS) เสริมด้วยระบบตรวจจับมุมอับสายตาด้านหน้า ในขณะที่ขับเข้าไปยังสามแยกที่มีมุมอับ

สนนราคาจำหน่ายซึ่งยังไม่รวม ภาษีนำเข้าของประเทศไทย แบ่งตามตัวถัง ดังนี้

ตัวถัง 4 ประตู Sedan ราคา 2,470,000 – 3,551,200 เยน (ราว 718,000 – 1,032,000 บาท)
ตัวถัง 5 ประตู Hatchback ราคา 2,181,000 – 3,621,400 เยน (ราว 634,000 – 1,052,000 บาท)