เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Toyota Alphard / Vellfire ที่ผ่านการปรับปรุงมาใหม่ มาขายในแบรนด์พรีเมียมในชื่อ Lexus LM ถือเป็นรถยนต์ Minivan คันแรกของค่าย โดยผ่านการปรับปรุงให้หรูหรามากกว่าเดิม ทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสาร ด้านขุมพลังมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ในรหัส LM 350 และ LM 300h



ภายนอกของ Lexus LM โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Spindle Grille ตามเอกลักษณ์ของค่าย ไฟหน้าเป็นแบบ LED มาพร้อมกับ DRL และ Projector ที่จัดวางตามสไตล์เดิม ส่วนไฟท้ายเป็นแบบ LED เช่นกัน เชื่อมต่อหากันเต็มฝาท้าย ซึ่งเป็น Design Language แบบใหม่

ด้านข้างตกแต่งคิ้วประตูโครเมี่ยม เล่นระดับจากขอบล่างของประตูคู่หน้า และไต่ระดับไปสู่ขอบบนของหน้าต่างคู่หลัง เรียงตัวยาวไปจนถึงด้านข้างของสปอยเลอร์หลังคา ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 2 สีระหว่าง สีดำ Black และ สีขาว White Pearl Crystal Shine

ห้องโดยสารของ Lexus LM ตกแต่งด้วยวิถีใหม่อย่าง Gin-Sin-Boku (หมึกสีเงิน) ซึ่งใช้แรงบันดาลใจมาจากศิลปกรรมขั้นสูงของญี่ปุ่น ให้ความหรูหราเป็นเอกลักษณ์ วัสดุที่ใช้ตกแต่งมีทั้ง หนัง, โลหะ และการเดินด้ายด้วยฝีมือขั้นสูง ส่วนจำนวนเบาะมีให้เลือกทั้งแบบ 4 และ 7 ที่นั่ง

ทั้งรุ่น  4 และ 7 ที่นั่ง จะให้เบาะแถว 2 แบบแยกมาให้ ด้านลูกเล่นสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มีหลายรายการไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผลขนาด 26 นิ้ว, ตู้เย็น, ที่เก็บร่ม และแผงควบคุมระบบต่างๆ ด้วยการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งเบาะ, ความบันเทิง และระบบปรับอากาศแยกตอน

Lexus LM มีขุมพลังให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ แตกต่างกันไปในแต่ละตลาด พร้อมทางเลือกระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า และ 4 ล้อ ส่วนรายละเอียดขุมพลังโดยสังเขป มีดังนี้

LM 300h

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2AR-FXE 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,493 ซีซี. กำลังสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว

มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้า 143 แรงม้า 270 นิวตันเมตร / มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหลัง 68 แรงม้า 139 นิวตันเมตร พละกำลังทั้งระบบเมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวม 197 แรงม้า แบตเตอรี่ Nickel-hydrogen 6.5 Ah ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four

LM 350

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2GR-FKS V6 สูบ D-4S ขนาด 3.5 ลิตร 3,456 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 94.0 x 83.0 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 301 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตันเมตร ที่ 4,600 – 4,700 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Direct Shift มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ

ช่วงล่างนำเทคโนโลยีโช๊คอัพแบบ Swing Valve อย่างเดียวกับของ Lexus ES มาใช้ สำหรับการเปิดตัวได้มีขึ้นไปแล้วในงาน Shanghai Auto Show 2019 ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 16 เมษายน ส่วนกำหนดออกจำหน่ายจะตามมาในเร็ววันนี้ โดยจะทำตลาดในประเทศจีน และบางประเทศในเอเชียที่ได้รับเลือก

ที่มา: Lexus