All NEW Honda Accord Gen10
สเป็คเวอร์ขั่นไทย อย่างเป็นทางการ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย
- 1.5 TURBO EL CVT 1,4xxx,000 บาท
- 2.0 Hybrid CVT 1,6xx,000 บาท
- 2.0 Hybrid TECH CVT 1,7xx,000 บาท
Engine เครื่องยนต์
เบนซิน 1.5 TURBO
เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ Direct Injection Dual VTC ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 89.4 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.6 : 1 ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT (พละกำลังมากกว่า 1.5 เทอร์โบ ของ Civic FC 17 แรงม้า 23 นิวตันเมตร) รองรับน้ำมันสูงสุด E85 ความจุถังน้ำมัน 56 ลิตร
* Honda เคลมว่าเครื่องยนต์ 1.5 Turbo ใหม่ แรงกว่า 2.4 ลิตร แต่ประหยัดกว่า 2.0 ลิตร รุ่นเดิม
เบนซิน 2.0 Hybrid i-MMD (3rd Generation)
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Atkinson Cycle ขนาด 2.0 ลิตร 1,993 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 81.0 x 96.7 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.5 : 1 กำลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที
ทำงานคู่กับ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว AC Synchronous Permanent Magnet Electric Motor พละกำลัง 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร ที่ 0 – 2,000 รอบ/นาที
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังรวม 215 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT มีการปรับปรุงใหม่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 มีการย้ายชุดแบตเตอรี่ Lithium-ion จากท้ายรถ มาไว้ที่ใต้เบาะนั่งด้านหลัง รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ความจุถังน้ำมัน 48.5 ลิตร
โหมดการขับขี่ของระบบ Hybrid ประกอบด้วย 4 รูปแบบ ดังนี้
- EV Drive Mode
ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ Lithium-ion ผ่านมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถกดปุ่ม EV Mode ที่ข้างคันเกียร์เพื่อมาใช้โหมดนี้ได้ วิ่งด้วยโหมดนี้ได้ความเร็วสูงสุดถึง 120 km/h แต่ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณแบตที่มีด้วย ไม่สามารถวิ่งจนแบตหมดเกลี้ยงได้ ระบบจะตัดการทำงานอัตโนมัติไปยังโหมดอื่น
- Hybrid Drive
เครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานร่วมกัน เพื่ออัตราเร่งที่ดีขณะปล่อยคันเร่งเครื่องยนต์จะหยุดทำงาน เข้าสู่ EV Drive Mode และ ชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรี่
- Engine Drive Mode
เครื่องยนต์จะส่งกำลังทั้งหมดไปยังล้อคู่หน้าโดยตรง แต่จะตัดสลับการทำงานกับ EV Drive Mode เป็นระยะตามระดับของแบตเตอรี่เหมาะกับการขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่
- Sport Drive Mode
กระตุ้นให้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยเครื่องยนต์มากขึ้น ด้วยความที่มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานตลอด ทำให้พลังงานในแบตเตอรี่ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เครื่องยนต์ต้องเข้ามาช่วยชาร์จไฟด้วย ทำให้เมื่อกดคันเร่งลงไปช่วยให้ช่วงเวลาที่ต้องสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าน้อยลง เพราะเครื่องยนต์จะทำงานอยู่ตลอด ทั้งนี้เลยทำให้ปริมาณแบตเตอรี่มีเยอะตลอดเวลา มอเตอร์ไฟฟ้าก็จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยทำงานโดยกดปุ่มที่อยู่ด้านล่างคันเกียร์ ไฟ SPORT สีเขียวก็จะติดขึ้นที่ชุดมาตรวัด
Accord Gen 9
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,930 x 1,850 x 1,465 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,775 มิลลิเมตร
Accord Gen 10
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,920 x 1,860 x 1,450 มิลลิเมตร (สั้นลง 10 มิลลิเมตร, กว้างขึ้น 10 มิลลิเมตร, เตี้ยลง 15 มิลลิเมตร)
- ระยะฐานล้อ : 2,830 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 55 มิลลิเมตร)
รายละเอียด Option เบื้องต้นของ All NEW Honda Accord Gen10 เวอร์ชั่นไทย
- หลังคา Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น Turbo)
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ลาย 5 ก้าน (รุ่น Hybrid)
- ไฟหน้าแบบ Full LED
- ไฟตัดหมอกแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED Lighting Guide
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีเบจ / สีดำ / สีน้ำตาลแดง
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charging
- ชุดมาตรวัด พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
- ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up Display
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสง แบบอัตโนมัติ
- หน้าจอกลางระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว
- เครื่องเสียงรอบรับ Apple CarPlay / Andriod Auto
- ระบบกุญแจ Engine Remote Start
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย MA-EPS
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSA
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย)
Honda SENSING ใน All NEW Accord Gen10 มีระบบอะไรบ้าง และ การทำงานเป็นอย่างไร ?
- Adaptive Cruise Control (ACC) with LSF (Low Speed Following)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน การทำงานก็เหมือนกับระบบ Cruise Control ทั่วไป แต่จะเพิ่มความสามารถในการรักษาระห่างจากรถคันหน้า ตรวจจับโดยกล้องและเรดาร์ เช่น ที่ความเร็ว 120 km/h เราตั้งความเร็วเอาไว้ หากรถคันข้างหน้าลดความเร็วลง ระบบก็จะลดความเร็วลงตาม ถ้าเป็น Cruise Control เราจะต้องเปลี่ยนเลนเพื่อหลบ หรือ เหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็ว แต่ ACC จะช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ หากมีรถมาแทรกกลาง ระบบก็จะค่อยๆชะลอความเร็วลงเช่นกัน แล้ว detect รถคันที่มาใหม่แทน ตามระยะที่เราตั้งเอาไว้ มี 3 ระยะให้เลือก คือ ใกล้ กลาง ไกล หากรถคันหน้าเพิ่มความเร็ว ระบบก็จะเพิ่มความเร็วให้กลับไปสู่ความเร็วและ ระยะห่างที่เราได้ตั้งเอาไว้แต่แรก
ปกติแล้ว ACC จะทำงานได้ตั้งแต่ความเร็วที่ 30 – 180 km/h เมื่อระบบชะลอความเร็วลง ไฟเบรกก็จะติดด้วยครับ เพื่อให้รถคันหลังทราบ และ มีการเพิ่มระบบ LSF (Low Speed Following) มาให้ด้วย ทำให้ที่ความเร็วต่ำกว่า 30 km/h ยังคงสามารถใช้งานระบบ ACC ได้อยู่ และ เมื่อรถคันหน้าหยุดนิ่ง และ เริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง รถของเราก็ยังคงสามารถเคลื่อนตัวตามได้ แต่ถ้าหากหยุดนิ่งเกิน 10 วินาทีขึ้นไป ต้องกดปุ่ม RES หรือ กดคันเร่ง เพื่อช่วยให้ระบบ ACC ทำงานอีกครั้งโดยอัตโนมัติ
- Collision Mitigation Braking System (CMBS)
ระบบเตือนการชนด้านหน้า และ ตรวจจับคนเดินถนน ด้วยกล้อง และ เรดาร์ ทำงานตั้งแต่ความเร็ว 15 km/h ขึ้นไป เมื่อมีรถด้านหน้า หรือคนเดินถนน ระบบจะตรวจจับเมื่ออยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย จะมีข้อความขึ้นเตือนบนหน้าจอ MID ที่ชุดมาตรวัด, มีเสียงเตือน รวมถึงการสั่นเตือนที่พวงมาลัย
ถ้าหากคนขับยังไม่ตอบสนองระบบก็จะช่วยกระตุกเข็มขัดนิรภัย และ เพิ่มแรงเบรกให้ แต่ถ้ารถติดๆไหลๆในเมืองความเร็วไม่เกิน 15 km/h แล้วมัวแต่เล่นมือถือ ระบบจะไม่ทำงานนะครับ คนละแบบกับของ Mazda ที่ช่วยเบรกเฉพาะที่ความเร็วต่ำ
- Lane Keeping Assist System (LKAS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ ตรวจจับเส้นแบ่งเลน (ที่เป็นเส้นประ) โดยใช้กล้องด้านหน้า เริ่มทำงานที่ความเร็ว 72 – 180 km/h จะช่วยเตือนด้วยสัญลักษณ์สีส้มบนหน้าจอ MID บนมาตรวัด รวมถึงหากตรวจจับว่ากำลังจะออกนอกเลน พวงมาลัยจะมีการหน่วงช่วยดึงรถให้อยู่ในช่องจราจรสามารถตรวจจับเส้นแบ่งเลนได้ทั้งทางตรง และ ทางโค้ง จับองศาโค้งได้ถึง 230 องศา หากมีการปล่อยมือจากพวงมาลัยระบบก็จะเตือนเช่นกัน
- Road Departure Mitigation with Lane Departure Warning (RDM with LDW)
ระบบแจ้งเตือน และ ช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ ใช้กล้องด้านหน้าตรวจจับเส้นแบ่งเลน (เส้นทึบ ขอบถนน) พูดง่ายๆก็คือระบบจะช่วยตรวจจับไม่ให้รถตกถนนนั่นเอง มีการช่วยหน่วงพวงมาลัยให้กลับเข้าสู่ช่องจราจร หากกรณีที่เบี่ยงออกนอกทางมากขึ้น ก็จะมีการช่วยเบรกชะลอความเร็วด้วย และ มีการแจ้งเตือนผ่านทางสัญลักษณ์สีส้มบนหน้าจอ MID และ เสียงเตือน รวมถึงการสั่นเตือนที่พวงมาลัย
2 ระบบหลังที่ว่ามานี้ หากเส้นถนนจางมาก จนไม่สามารถตรวจจับได้ หรือ ไม่มีเส้นแบ่งช่องจราจรบนถนน ระบบก็จะไม่ทำงานครับ
นอกจากนี้ยังมีระบบ Honda SENSING อื่นๆ ในอีกเช่น
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB : Auto High Beam
- ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Cross Traffic Monitor
- ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา Multi-View Camera System
- ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ พร้อมระบบช่วยเบรก Honda Smart Parking Assist System
- จอดแบบขนาน Parallel Parking
- จอดแบบเข้าซอง Perpendicular Parking
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 4 สี
- สีขาวมุก Platinum White Pearl
- สีดำมุก Crystal Black Pearl
- สีเงิน Lunar Silver Metalic
- สีเทา Modern Steel Metalic
ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 3 สี (ขึ้นอยู่กับสีภายนอก)
- สีเบจ
- สีดำ
- สีน้ำตาลแดง
ราคา และ สเป็คแต่ละรุ่นย่อยอย่างเป็นทางการ ของ All NEW Honda Accord Gen10 เวอร์ชั่นไทย จะประกาศในช่วงเดือน พฤษภาคม 2652 นี้ ติดตามได้ทาง Headlightmag.com
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/69921.0
เจาะสเป็ค – Option : Honda Accord Gen10 : 1.5 TURBO – 2.0 Hybrid 3 รุ่นย่อย : http://www.headlightmag.com/spec-option-honda-accord-gen10-thailand/