Mitsubishi eK กำลังจะมีทายาทรุ่นใหม่ตามมา หลังเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2013 โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นธรรมดาอย่าง eK Wagon และ eK X (Cross) ที่ผสานความเป็น SUV เข้าไป และ ยังดูโดดเด่นกว่า ด้วยการนำเอกลักษณ์การออกแบบด้านหน้า ประจำค่ายมาประยุกต์ใช้
มาเริ่มต้นกันที่ Mitsubishi eK Wagon กันก่อน ซึ่งมีสีตัวถังแบบ Monotone ให้เลือกด้วยกัน 7 สี ส่วนแนวทางการออกแบบภายนอกดูเรียบง่าย กระจังหน้ามี 2 ชั้นตกแต่งโครเมี่ยม ทั้งยังนำสีดำมาพ่นเสาหลังคา C-pillar ด้วย ห้องโดยสารคงความสะอาดตาเช่นกัน ด้วยการใช้สีเบจหุ้มเบาะ แผงประตู และแดชบอร์ด ตัดด้วยหลังเบาะสีน้ำตาล และแดชบอร์ดส่วนล่างสีดำ
ไปต่อกับ Mitsubishi eK X (อ่านว่า Cross) รุ่นย่อยใหม่ของตระกูลที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อตอกย้ำจุดแข็งของบริษัทเรื่อง SUV สีตัวถังมีให้เลือกทั้ง two-tone 5 สี และ monotone 6 สี ภายนอกดูโฉบเฉี่ยวกว่า ด้วยใบหน้า Dynamic Shield พร้อมตัดขอบชายล่างตัวถังด้วยสีเงินและสีดำ ล้อเป็นลาย 6 ก้านปัดเงา ส่วนภายในใช้งานออกแบบร่วมกับ eK Wagon แต่เปลี่ยนไปใช้โทนสีน้ำเงินและสีดำแทน
ตัวถังมีความยาว 3,395 มิลลิเมตร กว้าง 1,475 มิลลิเมตร สูงตั้งแต่ 1,640 – 1,660 มิลลิเมตร ตามแต่ละรุ่นย่อย ระยะฐานล้อ 2,495 มิลลิเมตร ระยะห่างจากพื้นถนนถึงใต้ท้องรถ Ground Clearance 155 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวเปล่า ตั้งแต่ 840 – 920 กิโลกรัม ตามแต่ละรุ่นย่อย
ขุมพลังของ Mitsubishi eK Wagon และ eK X จะใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด จับคู่กับระบบ Hybrid พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่พัฒนาและผลิตร่วมกับ Nissan ภายใต้บริษัทที่ร่วมกันจัดตั้งขึ้นมาใหม่นาม NMKV
เครื่องยนต์ ใหม่ เป็น รหัส BR06 เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 659 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 62.7 x 712 มิลลิเมตร หัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ มีให้เลือกทั้งรุ่นมาตรฐาน กำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 52 แรงม้า (PS) ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 6.1 กก.-ม. ที่ 3,600 รอบ/นาที และรุ่น Turbocharger พร้อม Intercooler 64 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 10.2 กก.-ม.ที่ 2,400 – 4,000 รอบ/นาที
เครื่องยนต์ ทั้ง 2 แบบ จะพ่วงกับระบบ Hybrid ประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า รุ่น SM21 กำลังสูงสุด 27 แรงม้า (PS) ที่ 1,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 4.1 กก.-ม. ที่ 100 รอบ/นาที (เขียนไม่ผิดครับ) เชื่อมต่อกับ แบ็ตเตอรี Lithium-ion มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD ด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผัน CVT
ระบบบังคับเลี้ยว เป็นพวงมาลัย Rack & Pinion พร้อม Power ผ่อนแรง แบบไฟฟ้า ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Strut ส่วนด้านหลัง หากเป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า จะใช้ระบบคานบิด Torsion Beam แต่ถ้าเป็นรุ่น 4WD จะเปลี่ยนเป็นแบบ Torque Arm 3 Link ทุกรุ่น ใช้ระบบห้ามล้อแบบ หน้าดิสก์ หลังดรัม
ด้านระบบความปลอดภัย นอกเหนือจากถึงลมนิรภัยรอบคันแล้ว ยังล้ำหน้ากับ ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติบนถนนช่องจราจรเดียวอย่าง MI-PILOT (Mitsubishi Intelligent-PILOT) ถือเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งระบบนี้ในรถยนต์พิกัดเดียวกัน
Mitsubishi eK Wagon และ eK X รุ่นใหม่ เปิดรับจองแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งที่บ้านเกิด ในวันที่ 28 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา