หลังถูกควบคุมตัวในประเทศญี่ปุ่นนานเกือบ 4 เดือน ในที่สุด ทางการได้ให้ Carlos Ghosn ประกันตัวแล้ว โดยเขาต้องวางเงินประกันตัวมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านเยน (ราว 284 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคดีที่มีวงเงินประกันตัวสูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ อดีตผู้บริหารชื่อดังยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Carlos Ghosn ได้รับการประกันตัวจากทางการของญี่ปุ่น โดยเงื่อนไขไม่ได้มีแค่เพียงการวางเงินมูลค่ามหาศาลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง การห้ามออกจากประเทศญี่ปุ่น, ห้ามไม่ให้ติดต่อกับพนักงานของบริษัทเก่า เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทำลายหลักฐาน, ห้ามใช้ internet และยังมีข้อห้ามอื่นด้วย
ในวันที่ Carlos Ghosn ปรากฏตัวเป็นครั้งแรก เขาอำพรางตัวด้วยการสวมหมวก หน้ากาก และแว่นตา ในขณะที่เขาฝ่ากลุ่มสื่อมวลชนไปขึ้น Toyota Alphard สีดำที่จอดรออยู่หน้าศาล แน่นอนว่าสื่อได้ขับรถตาม และพบว่าหนึ่งในสถานที่แห่งแรกที่ชายคนนี้แวะหลังได้รับอิสรภาพ คือสำนักงานทนายความของเขา
ต่อมาขบวนรถของ Carlos Ghosn ได้เข้าไปในชั้นใต้ดินของโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ตอนที่กลับขึ้นมา Toyota Alphard สีดำ กลับแยกร่างออกเป็น 5 คัน วิ่งกันไปคนละทิศคนละทาง จนสื่อมวลชนไม่สามารถตามติดชีวิต Ghosn ได้อีกต่อไป ส่วนเรื่องการให้สัมภาษณ์สื่อ ทนายความและภรรยาของเขาระบุว่า ขอเวลาก่อน
คาดว่าในระหว่างนี้ Carlos Ghosn จะทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าเขาไม่ผิด เพราะถ้าหากเขาตัดสินว่าผิดจริง เขาอาจถูกตัดสินจำคุกสูงสุด 10 ปี ส่วน Nissan นั้นดูท่าจะอยู่ไม่สุขเท่าใดนัก เพราะในทางเทคนิค Ghosn ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของบริษัท โดยเขามีหุ้นอยู่ 3.1 ล้านหุ้น ณ เดือนมิถุนายน 2017
คงไม่ต้องคิดมากว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด กลับไปร่วมประชุมบอร์ดกับบริษัทที่ปลดเขาออกจากตำแหน่งผู้บริหาร แต่สิ่งนี้คงไม่เกิดขึ้นเพราะศาลญี่ปุ่นได้สั่งห้ามเอาไว้ เช่นนั้นแล้วต้องติดตามต่อว่า Carlos Ghosn จะมีกลยุทธ์ใดในการแก้เกมส์ครั้งนี้ เพราะนี่ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่คือชีวิตของเขาเลยทีเดียว