การที่บริษัทเล็กถูกบริษัทใหญ่เข้าครอบครอง อาจไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีนักสำหรับผู้บริหารของบริษัทรอง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ Rolls-Royce คิดอย่างแน่นอน เพราะผู้บริหารได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หากไร้ซึ่งความช่วยเหลือของ BMW ในอดีต ตำนานรถยนต์สุดหรูจากอังกฤษคงไม่อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้
Torsten Müller-Ötvös ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Rolls-Royce ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในสัปดาห์ก่อนว่า บริษัทคงสิ้นชื่อไปแล้ว หากไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ BMW เนื่องจากการที่มีบริษัทใหญ่ให้การสนับสนุนทำให้ Rolls-Royce พุ่งเป้าไปที่การพัฒนาเอกลักษณ์ และความหรูหราได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องมาปวดหัวกับเรื่องซับซ้อน เช่น ระบบไฟ หรือ การทำเครื่องยนต์ให้ผ่านกฎหมายควบคุมมลพิษ
ทั้งนี้ CEO ของ Rolls-Royce ระบุว่า รถยนต์ของตนไม่ใช่การนำ BMW มาดัดแปลงใหม่ เพราะสิ่งที่ Rolls-Royce นำของ BMW มาใช้ มีแต่สิ่งที่ลูกค้ามองไม่เห็นและไม่รู้สึก เช่น ระบบสายไฟ หรือ platform ส่วนเครื่องยนต์ยังเป็นของตนเองอยู่ โดยยึดมั่นกับเอกลักษณ์เครื่องยนต์ ขนาด V12 เพื่อรักษาคุณงามความดีของการขับขี่แบบ Rolls-Royce เอาไว้
ส่วนแนวทางการพัฒนาในอนาคต ผู้บริหารคนเดิมมองว่าจะมีการนำระบบไฟฟ้ามาใช้ ซึ่งสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ว่า Rolls-Royce Cullinan อาจมีขุมพลัง Hybrid ให้เลือก ด้านระบบขับขี่อัตโนมัติจะตามมาอย่างแน่นอน แต่ต้องพัฒนาจนต้องถึงจุดที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องมองถนนเลย เพราะตอนนี้ยังไม่น่าสนใจพอสำหรับลูกค้า และเขายังทิ้งท้ายว่า บริษัทไม่ได้ทำรถยนต์ขาย แต่ทำของหรูหราขายต่างหาก
ที่มา: motorauthority