Range Rover Velar มีรุ่นที่ได้รับการตกแต่งเป็นพิเศษทั้งคันในชื่อ SVAUTOBIOGRAPHY Dynamic Edition โดยความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ได้มีเพียงรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน แต่ยังมีการปรับปรุงด้านสมรรถนะ และช่วงล่างเพื่อให้ได้ประสบการณ์การขับขี่ที่ดีกว่าเคย
การปรับปรุงช่องดักลมรอบคันของ Range Rover Velar พัฒนาขึ้นด้วยกรออกแบบในอุโมงค์ลม เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการรีดลม ป้ายชื่อรุ่นรอบคันเปลี่ยนใหม่เป็นตัวอักษร 2 ชิ้น ให้ดูมีมิติขึ้น ล้อมีให้เลือกขนาด 20 – 22 นิ้ว พ่นสีเงิน Silver Sparkle พร้อมตัดขอบ หลังคามาในสีดำ Narvik Black ปิดท้ายด้วยสีตัวถัง ที่มีให้เลือก 6 สี ประกอบด้วย
- สีแดง Firenze Red
- สีดำ Santorini Black
- สีเทา Corris Grey
- สีขาว Fuji White
- สีเงิน Indus Silver
- สีน้ำเงิน Satin Byron Blue (สีพิเศษสั่งทำเฉพาะรุ่น)
ห้องโดยสารมีโทนสีให้เลือกด้วยกัน 4 สี ประกอบด้วย Ebony, Cirrus, Vintage Tan และ Pimento ส่วนเบาะหุ้มหนัง Windsor ลายข้าวหลามตัดเดินด้ายคู่ โดยคู่หน้าเป็นแบบปรับอุณหภูมิได้ และมีระบบนวดพร้อมจดจำตำแหน่ง นอกจากนั้น ยังมีวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ให้เลือกตกแต่งด้วย
พวงมาลัยยังเป็นรุ่นพิเศษเฉพาะรุ่น ส่วนปุ่มกดและก้าน Paddle Shift รวมถึงวัสดุโลหะรอบห้องโดยสาร เปลี่ยนไปใช้อะลูมิเนียม ชุดเครื่องเสียงรองรับระบบ Touch Pro Duo ส่วนหน้าจอควบคุมระบบต่างๆ เป็นแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว
ขุมพลังของ Range Rover Velar SVAUTOBIOGRAPHY Dynamic Edition เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V8 ขนาด 5.0 ลิตร Supercharger กำลังสูงสุด 550 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Quickshift 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 274 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ระบบเบรกเปลี่ยนไปใช้คาลิปเปอร์ ขนาด 4 พอต พร้อมพ่นสีแดง หรือ สีดำ ติดตรา Land Rover จานเบรกเพิ่มขนาดเป็น 395 มิลลิเมตร ในด้านหน้า และ 396 มิลลิเมตร ในด้านหลัง พวงมาลัยเป็นแบบแปรผันตามความเร็ว Speed-sensitive Electric Power Assisted Steering
Range Rover Velar SVAUTOBIOGRAPHY Dynamic Edition พร้อมออกจำหน่ายแล้วที่ประเทศอังกฤษ สนนราคาจำหน่ายซึ่งยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 86,120 ปอนด์ (ราว 3,472,000 บาท)
ที่มา: Land Rover