สภาวะการเงินของ Jaguar Land Rover ยังคงกระท่อนกระแท่นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทได้เปิดเผยตัวเลขการเงินในไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 ว่าขาดทุนสูงถึง 3,400 ล้านปอนด์ (ราว 138,000 ล้านบาท) ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ส่งผลร้ายแรงต่อสภาพคล่องทางการเงิน เพราะสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขพุ่งคือการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่นั่นเอง
เมื่อศึกษารายละเอียดสภาวะทางการเงินของ Jaguar Land Rover ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาจะพบว่า บริษัทได้ลงทุนไป 3,100 ล้านปอนด์ (ราว 126,000 ล้านบาท) เพื่อพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล ขุมพลังไฟฟ้า และโรงงานแห่งใหม่ โดยบริษัทยอมรับว่าแม้สถานการณ์ ในอุตสาหกรรมตอนนี้จะยากลำบาก แต่บริษัทจะมุ่งลงทุนต่อไปเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
เมื่อหักมูลค่าการลงทุนออก ตัวเลขขาดทุนของ Jaguar Land Rover จะลดเหลือ 273 ล้านปอนด์ (ราว 11,000 ล้านบาท) ส่วนสาเหตุเกิดจากยอดขายในประเทศจีนตกต่ำ ทำให้ภาพรวมยอดขายของบริษัทลดลงแม้ตัวเลขในสหรัฐฯ และยุโรปจะดีขึ้นก็ตาม สำหรับตัวเลขยอดขายทั้งหมดในไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ที่ 144,602 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 154,447 คัน
นับว่าสถานการณ์การเงินของ Jaguar Land Rover ยังน่าเป็นห่วงอยู่ เพราะขาดทุนติดต่อกันจากไตรมาสที่ 3 มูลค่า 90 ล้านปอนด์ (ราว 3,676 ล้านบาท) จนนำไปสู่การพิจารณานำมาตรการรัดเข็มขัดมาใช้ และในเมื่อสถานการณ์ยังทรุดลงเช่นนี้ เห็นทีต้องจับตาดูกันต่อแล้วว่า บริษัทจะออกมาตรการที่เข้มข้นกว่านี้มารองรับหรือไม่
อ่านข่าว Jaguar Land Rover มีแผนรัดเข็มขัด อาจปลดพนักงาน 5,000 ตำแหน่ง ในปี 2019 ได้ที่ >> http://www.headlightmag.com/news-jaguar-land-rover-may-lay-off-5000-staffs/
Jaguar Land Rover มีแผนรัดเข็มขัด อาจปลดพนักงาน 5,000 ตำแหน่ง ในปี 2019