MG4 รุ่นใหม่ล่าสุดถูกเปิดเผยโดยหน่วยงานกำกับดูแลของจีน โดยมาพร้อมกับตัวถังที่ใหญ่ขึ้นและการออกแบบใหม่หมดจด ซึ่งอาจสะท้อนว่า MG กำลังตัดสินใจยกเครื่องใหม่ทั้งหมดสำหรับรถแฮทช์แบ็กไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้น ภายหลังจากที่ยอดขาย MG4 โฉมแรกในจีนตกต่ำอย่างมาก
MG4 รุ่นใหม่มีขนาดตัวถังดังนี้
- ความยาว: 4,395 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 108 มิลลิเมตร จากรุ่นก่อน)
- ความกว้าง: 1,842 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 6 มิลลิเมตร)
- ความสูง: 1,551 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 35 มิลลิเมตร)
- ระยะฐานล้อ: 2,750 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 45 มิลลิเมตร)
เมื่อเปรียบเทียบกับ MG4 รุ่นปัจจุบัน (4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร) จะเห็นได้ว่า MG4 ใหม่ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัดว่ารถรุ่นใหม่นี้จะมาแทนที่รุ่นก่อนหน้าหรือไม่ แต่แน่นอนว่าเป็นการพัฒนาโมเดลใหม่ทั้งหมด





MG4 ใหม่มีการ ออกแบบด้านหน้า ประตู และท้ายรถใหม่หมด พร้อมทั้งปรับปรุงส่วนโครงสร้างระหว่างเสา A และ C ให้ดูทันสมัยขึ้น นับว่าเป็นดีไซน์ใหม่ที่ผสมผสานระหว่างน้องเล็ก MG3 และรถสปอร์ตขุมพลังไฟฟ้าล้วนอย่าง Cyberster
เมื่อพิจารณาดีไซน์โดยรวม ดูเหมือนว่า MG ได้นำแรงบันดาลใจจาก MG3 มาขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น พร้อมใส่ลูกเล่นจาก MG Cyberster โดยเฉพาะด้านท้ายที่มีแถบไฟคาดยาวและไฟท้ายทรงลูกศรที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้น


MG4 รุ่นปัจจุบัน
MG4 ใหม่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ารหัส TZ180XS1001 ให้พละกำลังสูงสุด 161 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง น้ำหนักตัวรถ 1,485 กิโลกรัม เบากว่ารุ่นปัจจุบัน 156 กิโลกรัม แบตเตอรี่ของ MG4 ใหม่จะใช้เซลล์แบบ LFP จาก Rept Battero Energy แต่ยังไม่มีข้อมูลความจุแบตเตอรี่อย่างเป็นทางการ
เมื่อพิจารณาตำแหน่งทางการตลาดของ MG4 ใหม่นี้ อาจเป็นการวางจำหน่ายแยกกลุ่มตลาดกับรุ่นเดิมซึ่งเมื่ออ้างอิงการจดทะเบียนสิทธิบัตรแล้ว นอกจากจะใช้ชื่อ MG4 ที่ปรากฎอยู่ในภาพแล้ว MG ยังได้จดทะเบียนชื่อ MG3 และ E5 สำหรับรถรุ่นนี้ด้วย ซึ่งหมายความว่า MG4 ใหม่อาจใช้ชื่ออื่นเมื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ



แม้ว่า MG4 จะขายดีในตลาดต่างประเทศอย่าง อินเดีย ไทย และยุโรป แต่ในประเทศจีนบ้านเกิดกลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา MG4 ขายได้เพียง 13 คัน เท่านั้น สาเหตุหลักมาจากการแข่งขันที่ดุเดือดกับคู่แข่งในกลุ่ม EV ระดับเริ่มต้น เช่น BYD Dolphin Wuling Bingo และ Geely Xingyuan
เมื่อพิจารณายอดขายในเดือนเดียวกัน MG มียอดขายรวม 7,002 คันในจีน (เพิ่มขึ้น 17.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน) แต่ยอดขายส่วนใหญ่กลับมาจาก MG5 (75% ของยอดขาย) และ MG7 (20%) ซึ่งเป็นรถเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วน
MG4 เจเนอเรชันใหม่มาพร้อมกับตัวถังที่ใหญ่ขึ้น การออกแบบที่ปรับใหม่หมด และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ประสิทธิภาพดีขึ้น อย่างไรก็ตาม MG ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดจีน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัทต้องยกเครื่อง MG4 ใหม่ทั้งหมดและอาจเปลี่ยนชื่อรุ่นเพื่อดึงดูดลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้น
ที่มา: Carnewschina