ในยุคที่อุตสาหกรรมยานยนต์ให้ความสำคัญกับรถ EV มากขึ้น ข่าวสารอัพเดทของเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ใหม่ๆ ก็หาได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม Mazda ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยล่าสุดได้เผยแนวคิด Skyactiv-Z ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “เครื่องยนต์สันดาปภายในที่สมบูรณ์แบบ”
Mazda ได้เปิดตัว Skyactiv-Z เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2024 โดย Mazda CX-5 เจเนอเรชันใหม่จะเป็นรถรุ่นแรกที่นำเครื่องยนต์นี้มาใช้ ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวช่วงปลายปี 2027 พร้อมเครื่องยนต์เบนซินความจุ 2.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียงเจเนอเรชั่นใหม่และระบบ Hybrid ที่พัฒนาโดย Mazda เอง เครื่องยนต์ใหม่นี้ถูกพัฒนาให้สอดคล้องกับ มาตรฐานมลพิษ Euro 7 ในยุโรป รวมถึง LEV IV และ Tier 4 ในอเมริกาเหนือ


Mazda อ้างว่า Skyactiv-Z จะให้ประสิทธิภาพความร้อน (Thermal Efficiancy) ที่สูงขึ้นและช่วงการทำงานที่กว้างกว่าเครื่องยนต์ Skyactiv-G และ Skyactiv-X รุ่นปัจจุบัน นอกจากนี้ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังจะถูกนำไปใช้กับเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงเจเนอเรชั่นใหม่ รวมถึงเครื่องยนต์โรตารีซึ่งทีมวิศวกรของ Mazda ได้ตัดสินใจกลับพัฒนาต่อยอดอีกครั้งเมื่อปี 2024
SPCCI และเทคโนโลยีใหม่ของ Skyactiv-Z
ถึงแม้ว่า Skyactiv-X จะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่คาดหวังไว้ แต่ Mazda ยังคงพัฒนาต่อไปด้วยการ ขยายพื้นที่การทำงานของ SPCCI (Spark Controlled Compression Ignition) อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถสลับระหว่างการจุดระเบิดด้วยหัวเทียน (Spark Ignition) และการจุดระเบิดด้วยแรงอัด (Compression Ignition) ได้อย่างราบรื่น ซึ่งจะให้ทั้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบเครื่องยนต์ดีเซลพร้อมการตอบสนองที่รวดเร็ว และการปล่อยมลพิษที่ต่ำกว่ารถยนต์เบนซินทั่วไป




นอกจากนี้ Mazda ยังนำเทคโนโลยี Heat Shielding มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ให้ถึงขีดสุด ซึ่งจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้สะอาดยิ่งขึ้นโดยไม่ลดกำลังลงแต่อย่างใด
Mazda มีแผนที่จะลดจำนวนรุ่นของเครื่องยนต์ในไลน์อัพลงมากกว่า 50% หลังจากที่ได้เริ่มเดินสายพานการผลิตเครื่องยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ Skyactiv-Z ซึ่งสามารถผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดขึ้น โดยไม่ลดกำลังลง ต่างจากแนวทางเดิมที่ต้องลดกำลังเครื่องยนต์ลงถึง 30% เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม


สำหรับแฟนๆ เครื่องยนต์โรตารี Mazda ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีนี้ต่อไป โดยปัจจุบันใช้เป็น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับเพิ่มระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าใน MX-30 e-Skyactiv R-EV ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์โรตารีขนาด 830 ซีซี
นอกจากนี้ Mazda ยังได้พัฒนาเครื่องยนต์โรตารีแบบ 2 โรเตอร์ ซึ่งมีพละกำลังมากขึ้น และอาจถูกนำมาใช้ในรถยนต์ที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา โดยเครื่องยนต์ใหม่นี้ได้รับการเผยโฉมครั้งแรกในต้นแบบ Iconic SP ซึ่งเป็นสปอร์ตคาร์สไตล์เรโทรที่หลายคนคาดว่าจะได้รับการผลิตจริงในอนาคตอันใกล้
Mazda ยังคงเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่เชื่อมั่นใน ศักยภาพของเครื่องยนต์สันดาปภายใน พร้อมเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวข้ามขีดจำกัดของข้อกำหนดด้านมลพิษ ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะและประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน
ที่มา: Motor1