Rivian เปิดตัวรุ่นพิเศษครั้งแรกของ R1T และ R1S ในชื่อ California Dune Edition โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความทะเลทรายแคลิฟอร์เนีย มาพร้อมสีภายนอกใหม่ California Dune ซึ่งเป็นสีแทนโทนอุ่น ที่สะท้อนถึงบรรยากาศของทะเลทราย และยังได้ติดตั้งอุปกรณ์เสริมและดีไซน์ที่แตกต่างจากรุ่นปกติ 

 

งานออกแบบภายนอกของ California Dune Edition โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยาง All-Terrain ขนาด 275/65 R20 จาก Pirelli ซึ่งมีให้เลือกสองแบบ คือ ล้อสีเข้ม (Dark Finish) ที่มีในรุ่นอื่น ๆ และ ล้อสี California Dune Finish ที่เป็นดีไซน์ใหม่สำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ การออกแบบล้อสไตล์แรลลี่เสริมลุคให้ดูดุดันและพร้อมลุยทุกสภาพถนน 

 

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ถูกเพิ่มเข้ามา เช่น แผ่นกู้รถสีดำ Maxtrax สามารถติดตั้งไว้ที่ราวหลังคา ที่ช่วยให้สามารถฝ่าด่านอุปสรรคได้ง่ายขึ้น คานขวางสีเข้ม (Dark Crossbars) ที่เหมาะสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริม และในรุ่นกระบะ R1T ยังเพิ่ม ฝาครอบกระบะไฟฟ้า (Powered Tonneau Cover) ที่สามารถเปิดปิดได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

ด้วยการผสมผสานระหว่างดีไซน์หรูหราที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ สมรรถนะอันทรงพลัง และความคุ้มค่าด้านราคา California Dune Edition จึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงพร้อมสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งสำหรับการเดินทางในเมืองและการผจญภัยบนเส้นทางออฟโรด

 

ในส่วนของห้องโดยสาร California Dune Edition มาพร้อมการตกแต่งภายในแบบใหม่ทั้งหมดด้วยชุด Adventure Interior โทนสี Sandstone ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา ผสานกับสีดำ Black Mountain บริเวณส่วนบนของห้องโดยสาร วัสดุที่ใช้ยังคงรักษาความหรูหราในแบบของ Rivian แต่เน้นความทนทานและทำความสะอาดง่าย เหมาะกับการเดินทางผจญภัยที่อาจเผชิญกับฝุ่นและทราย

Jeff Hammoud หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Rivian กล่าวว่า “ทีมออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันและความอบอุ่นของเนินทรายทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย เราจึงสร้างสรรค์รุ่นพิเศษนี้ขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ที่ผสมผสานความสงบของธรรมชาติเข้ากับความหรูหราและเรียบง่ายในแบบ Rivian ที่ใช้งานง่ายและดูดีเสมอ ไม่ว่าจะสะอาดหรือเปื้อนฝุ่นจากการผจญภัย”

 

ด้านสมรรถนะ รุ่นนี้ใช้ระบบขับเคลื่อน Tri-Motor ที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 850 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 1,495 นิวตัน-เมตร ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 2.9 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วเทียบเท่ากับรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ในส่วนของระยะทางวิ่งสูงสุดต่อ 1 รอบการชาร์จของ R1T และ R1S สามารถวิ่งได้ไกลถึง 329 ไมล์ (มาตรฐาน EPA) ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางไกลและผจญภัยในเส้นทางทุรกันดาร

 

Rivian เปิดราคา R1T California Dune Edition เริ่มต้นที่ 99,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3,361,085 บาท ขณะที่ R1S เริ่มต้นที่ 105,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3,563,535 บาท (ไม่รวมค่าขนส่ง) ราคานี้เทียบเท่ากับรุ่น Tri-Motor ปกติที่ยังไม่รวม All-Terrain Package ราคา 3,950 เหรียญสหรัฐฯ ทำให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรุ่นพิเศษที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมและดีไซน์พิเศษได้ในราคาที่คุ้มค่ากว่า

 

สำหรับผู้ที่สนใจ Rivian R1T และ R1S California Dune Edition สามารถชมคันจริงได้ที่งาน SXSW ในเมือง Austin รัฐ Texas ระหว่างวันที่ 6-17 มีนาคม 2025 นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงในโชว์รูม Rivian บางแห่งทั่วสหรัฐอเมริกา

ที่มา: Insideevs