Tesla Model Y ปิดยอดขายตลอดปี 2024 ด้วยจำนวนกว่า 480,309 คัน ขึ้นแท่นรถที่ขายดีที่สุดในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย เอาชนะรถซีดาน BYD Qin Plus ที่ครองอันดับสองด้วยยอดขาย 480,025 คัน ตามหลังเพียง 284 คันเท่านั้น อ้างอิงจากสื่อยานยนต์ท้องถิ่นอย่าง China EV DataTracker ขณะที่ยอดขายของ Model Y ในประเทศอื่นๆ กลับลดลงกันถ้วนหน้า แต่ยอดขายในจีนกลับโตสวนทาง ถึงแม้ว่าจะมีกำหนดการเปิดตัวของรุ่นปรับโฉมในช่วงเดือนมกราคม 2025 นี้นี่เอง จึงสามารถคาดเดาได้ว่ารุ่นปรับโฉมที่มีรหัสในการพัฒนาว่า “Juniper” จะสามารถเพิ่มยอดขายให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องขึ้นไปอีก
สถานการณ์ยอดขายของ Tesla Model Y ลดลงทั่วโลก เมื่ออ้างอิงจากรายงานของ Felipe Munoz นักวิเคราะห์ยานยนต์ ที่ได้อ้างว่า ยอดขายของรถครอสโอเวอร์รุ่นนี้ลดลงถึง 27% ในประเทศนอร์เวย์ และลดลง 87% ในไอซ์แลนด์ ขณะที่ยอดขายในลักเซมเบิร์กก็ลดลงอีก 31% โดยสาเหตุที่ Model Y มียอดขายลดลง มาจากภายหลังจากที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ซึ่งก็ถือว่ามีอายุตลาดที่ยาวนานพอสมควร
New Model Y “Jupiter”
ยอดขายที่กวาดไปได้จำนวน 480,309 คัน ทำให้มีอัตราการเติบโตเป็นสัดส่วนกว่า 5.24% จาก 456,394 คันในปี 2023 ซึ่งเมื่อพิจารณาเส้นทางของชัยชนะครั้งนี้ จะพบว่าไม่ง่ายดายเท่าไรนัก เนื่องจากมีการแซงอันดับที่ 2 อย่าง BYD Qin Plus ที่เป็นแชมป์ยอดขายมาตลอดระยะเวลา 11 เดือน ก่อนที่ยอดของ Model Y จะพุ่งสูงขึ้นในเดือนธันวาคมเป็นจำนวนกว่า 61,881 คัน ซึ่งนับเป็นยอดขายต่อเดือนอันดับที่ 3 รองจากเดือนพฤศจิกายนและสิงหาคม 2022 ที่ขายได้เป็นจำนวน 69,098 และ 62,169 คัน ตามลำดับ
ยอดขายที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นผลมาจากความพยายามทางการตลาดของบริษัทในประเทศจีนช่วงปลายปี 2024 ตัวอย่างเช่น Grace Tao รองประธานของ Tesla ได้แชร์ว่า Tesla ไม่เคยมีการเรียกคืนรถในช่วงหกปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพิสูจน์ถึงความปลอดภัยของรถ อีกทั้งยังมีเหตุผลอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดขาย เช่น การเปิดตัวฟีเจอร์ Smart Summon และการเสนอส่วนลดชำระเงินงวดสุดท้ายสำหรับ Model Y ในจีน
เมื่อวันที่ 10 มกราคม Tesla Model Y รุ่นใหม่ “Juniper” ได้เปิดตัวในจีนด้วยช่วงราคาที่ 263,500 – 303,500 หยวน (ประมาณ 1,250,313 – 1,440,114 บาท) โดยรถรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกที่ปรับปรุงใหม่ จนค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านลดลงเหลือ 0.22 Cd และมีพื้นที่เก็บของท้ายรถเพิ่มขึ้นอีก 100 ลิตร กำหนดการส่งมอบรถรุ่นนี้จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2025 ที่ประเทศจีน โดยได้รับยอดจองล่วงหน้าในจีนจำนวนกว่า 50,000 คันในวันเปิดตัว
ที่มา: Carnewschina