นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 1986 BMW M3 ได้ผ่านการติดตั้งเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ, 6 สูบ และ 8 สูบ แต่ในเจเนอเรชันถัดไป BMW จะยังคงใช้สูตรเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงที่คุ้นเคย อย่างไรก็ตาม คราวนี้มีสิ่งใหม่ที่จะเข้าร่วมทัพ นั่นคือ M3 เวอร์ชันไฟฟ้าล้วน ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ

รถต้นแบบคันนี้ ซึ่งถูกพรางตัวด้วยลวดลายสีของแผนก M ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Neue Klasse ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ BMW กำลังสร้างสมดุลระหว่างสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ M3 แบบดั้งเดิมกับอนาคตของยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่ง M3 ไฟฟ้าคันนี้คือตัวอย่างที่ชัดเจนของการเปลี่ยนผ่านยุคใหม่ของแบรนด์สปอร์ตซีดานชื่อดัง

 

รุ่นธรรมดาของ i3 จะเปิดตัวในปี 2026 ที่โรงงานในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ขณะที่ M3 ไฟฟ้า รุ่นสมรรถนะสูงที่มีโค้ดเนมว่า “ZA0” จะตามมาในปี 2027 เป็นอย่างเร็ว

BMW เปรียบ M3 ไฟฟ้านี้เหมือนเวอร์ชันที่อัปเกรดของ Vision Neue Klasse Concept ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ด้วยแพลตฟอร์มไฟฟ้าล้วน รถจึงมีระยะโอเวอร์แฮงค์สั้น ทำให้รถซีดาน 4 ประตูรุ่นนี้มีสัดส่วนที่กระชับน่าประทับใจ ต่างจากรถยุคปัจจุบันที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การออกแบบภายนอกมีความแปลกใหม่ และเป็นหนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ กระจังหน้า ของ M3 ไฟฟ้า BMW ได้กำจัดกระจังหน้าขนาดใหญ่เกินพอดีของ M3 รุ่นปัจจุบันออกไปแทนที่ด้วยกระจังหน้าทรง “ไตคู่” (Kidney Grille) ที่กว้างขึ้นและผสานเข้ากับไฟหน้า ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Vision Neue Klasse Concept

 

แม้ BMW จะยังไม่เผยโฉมห้องโดยสาร แต่จาก Vision Neue Klasse Concept เราเห็นแนวทางการออกแบบที่เรียบง่ายและล้ำสมัยขึ้น จะไม่มีปุ่มควบคุมแบบดั้งเดิมอีกต่อไป รวมถึงปุ่มหมุน iDrive Rotary Knob ที่เป็นเอกลักษณ์ แทนที่ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ตรงกลางคอนโซลและ เฮดอัพดิสเพลย์ (HUD) ที่ยาวเต็มความกว้างของแผงแดชบอร์ด

 

คาดว่า M3 ไฟฟ้าเวอร์ชันแรกจะมีกำลัง ต่ำกว่า 1,000 แรงม้า แต่ยังสูงกว่ากำลัง 543 แรงม้าของ M3 CS รุ่นปัจจุบัน

สำหรับคนที่ยังไม่พร้อมเปิดรับ M3 ไฟฟ้า BMW ยืนยันว่า M3 เครื่องยนต์สันดาป จะยังคงมีอยู่ โดย CEO แผนก BMW M อย่าง Frank van Meel กล่าวไว้ว่า “M3 เจเนอเรชันที่ 7 ซึ่งมีชื่อโค้ดเนมว่า “G84” จะเปิดตัวในปี 2028” แต่รุ่นนี้จะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น

ที่มา: Motor1