Hyundai ได้ฤกษ์เปิดตัว Ioniq 9 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็น SUV ขุมพลังงานไฟฟ้าล้วน 3 แถวที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทำตลาดควบคู่กับ Kia EV9 โดยทั้งคู่ใช้งานวิศวกรรมพื้นฐาน E-GMP ที่รองรับรถยนต์ไฟฟ้าในเครือ Hyundai Kia และ Genesis โดยสามารถมอบสมรรถนะ เทคโนโลยีและความยั่งยืนในระดับแนวหน้า
งานออกแบบของ Ioniq 9 ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นแบบ SEVEN Concept โดดเด่นด้วยไฟหน้า Parametric Pixel ที่เป็นเอกลักษณ์ ระบบช่องดักลมแบบ Active Air Flap (AAF) ที่จะจัดสรรกระแสลมด้านหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ Cd. เพียง 0.259 เมื่อใช้กระจกมองข้างแบบกล้องที่เป็นอุปกรณ์เสริม การติดตั้งเสาที่รับสัญญาณต่างๆ อยู่ภายในกระจกบังลมด้านหน้า ด้านข้างมีความหรูหราด้วยการตกแต่งวัสดุโครเมี่ยม
ขณะที่ด้านท้ายมาพร้อมกับไฟท้ายแนวตั้งแบบ Full LED พร้อมด้วยสปอยเลอร์ทำงานในรูปแบบ Dual-Motion Active Spoiler ช่วยปรับปรุงการไหลของอากาศ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรถยนต์ผลิตจริงของ Hyundai
มีตัวเลือกล้ออัลลอยตั้งแต่ขนาด 19-21 นิ้ว โดยรุ่นท็อป Calligraphy จะมาพร้อมล้อ ขนาด 21 นิ้ว รัดด้วยยางที่ออกแบบมาโดยเฉพาะจาก Michelin PRIMACY TOUR A/S
ภายในมีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางไกล จุดเด่นสำคัญ ได้แก่ พวงมาลัยได้รับงานออกแบบส่งต่อมาจากรุ่น Santa Fe พร้อมไฟ LED แสดงสถานะแบตเตอรี่ หน้าจอแสดงผลสุดทันสมัยที่ประกอบไปด้วยหน้าจอโค้งที่รวม หน้าจอมาตรวัดแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 12 นิ้ว และ หน้าจอ infotainment ขนาด 12 นิ้ว พร้อมระบบเครื่องเสียงลำโพงมาตรฐาน 8 ตัว หรือจะอัพเกรดเป็นเครื่องเสียงจาก Bose 14 ตัว
ติดตั้งพอร์ตชาร์จ USB-C กำลังสูงที่รับพลังงานโดยตรงจากแบตเตอรี่หลัก เน้นการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ผ้าจากขวด PET รีไซเคิล ขนสัตว์ และหนังสังเคราะห์ที่มีกรรมวิธีการผลิตแบบเฉพาะ ที่นั่งมีให้เลือกทั้งแบบ 6 หรือ 7 ที่นั่ง โดยเบาะแถว สามารถหมุนได้ เช่นเดียวกับ Kia EV9
มีการตกแต่งด้วยไฟ Ambient light ที่เลือกสีสันได้ตามต้องการ เช่นเดียวกันกับวัสดุสุดหรูหราบริเวณคอนโซลหน้า ความสบายจากการโดยสารถูกเติมเต็มด้วยเบาะนั่งที่เคลมว่ามีการออกแบบโดยคำนึงถึงหลัก Ergonomics ทุกที่นั่ง เพิ่มเติมแผ่นรองต้นขาที่เบาะนั่งแถวหน้าและแถวหกลาง
Hyundai Ioniq 9 ทุกรุ่นใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 110.3 kWh พร้อมตัวเลือกสมรรถนะ 3 แบบ ได้แก่
- Long Range RWD ที่ใช้มอเตอร์หลังเดี่ยว ให้พละกำลัง 214 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่มอบระยะทางสูงสุด 620 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP พร้อมล้อขนาด 19 นิ้ว
- อัตราเร่งจากความเร็ว 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 9.4 วินาที
- Long Range AWD ที่ใช้มอเตอร์คู่ ให้พละกำลังรวม 308 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 605 นิวตัน-เมตร
- อัตราเร่งจากความเร็ว 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.7 วินาที
- Performance AWD ที่ใช้มอเตอร์คู่ ให้พละกำลังรวม 428 แรงม้า
- อัตราเร่งจากความเร็ว 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 5.2 วินาที
ความเร็วสูงสุดของทุกรุ่นจำกัดไว้ที่ 200 กม./ชม.
ทุกรุ่นรองรับการชาร์จเร็ว 350 kW Ultra-Fast Charging สามารถชาร์จจาก 10-80% ภายในเวลาเพียง 24 นาที และรองรับฟังก์ชัน Vehicle-to-Load (V2L) เพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า
ยิ่งไปกว่านั้น Hyundai ยังได้ติดตั้งชุดระบบความปลอดภัยล่าสุดมาเป็นมาตรฐาน ได้แก่ ระบบหลีกเลี่ยงการชนอัตโนมัติระดับ 2 Forward Collision-Avoidance Assist 2 ระบบเตือนการชนจากมุมอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance ระบบช่วยรักษาตัวรถให้อยู่ภายในเลน Assist Lane Keeping Assist ระบบป้องกันการชนจากทางด้านหลัง Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist ระบบไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist ระบบเตือนสิ่งกีดขวางเมื่อเปิดประตู Safe Exit Warning พร้อมถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง
Hyundai Ioniq 9 จะเปิดตัวครั้งแรกในเกาหลีและสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ก่อนขยายสู่ยุโรปและตลาดอื่น ๆ โดยรายละเอียดราคาจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
ที่มา: Carscoops