เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2024 Haval เปิด H9 ตัวเจเนอเรชั่นที่ 2 ของรถตรวจการณ์ขนาดใหญ่ของค่ายที่เปิดตัวรุ่นแรกเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา โดยรถ SUV แบบ 3 แถว 7 ที่นั่งนี้ กวาดยอดขายได้เป็นอย่างดีตลอดช่วงปี 2014-2017 แต่ทว่า เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ยอดขายกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยอายุตลาดของรถที่เกินหน้าคู่แข่งไปพอสมควร โดยยอดขายตลอด 8 เดือนของปี 2024 สามารถขายไปได้เพียงแค่ 2,743 คัน 

 

งานออกแบบภายนอกมีกลิ่นอายของรุ่นน้องอย่าง HAVAL Raptor ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าในปี 2023 และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยรูปทรงเหลี่ยมสันที่เป็นกระแสนิยมในขณะนี้ ด้านหน้าที่มาพร้อมไฟหน้าทรงกลมแบบเดียวกัน พร้อมด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ซี่แนวนอนที่มีการตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยมและลวดลายแตกต่างกันในแต่ละรุ่นย่อย ด้านข้างยังคงมีความเป็นรถ SUV บึกบึนเน้นความสมบุกสมบัน

 

จุดเด่นอยู่ที่การออกแบบมุมไต่ที่มากถึง 31 องศา และมุมจาก 25 องศา ขณะที่ล้ออัลลอยขนาด 18 / 19 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 265/60 R18 และ 265/55 R19 ตามแต่ละรุ่นย่อย พร้อมด้วยงานออกแบบด้านท้ายที่มี 2 รูปแบบ ระหว่างแบบที่มาพร้อมล้ออะไหล่และไม่ได้มาพร้อมล้ออะไหล่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระยะต่ำสุดใต้ท้องที่ 224 มิลลิเมตร พร้อมด้วยระยะการลุยน้ำลึกสุด 800 มิลลิเมตร

 

มิติตัวถังรถ

  • ความยาว 5,070 / 4,950 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,976 / 1,960 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,930 มิลลิเมตร

 

ภายในมาพร้อมหน้าจอกลางขนาดใหญ่จุใจถึง 14.6 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว พวงมาลัยรูปทรงวงรี ขณะที่ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ยังคงใช้แบบปุ่มกดและหมุน ติดตั้งกระจายตัวทั่วคอนโซลหน้าและคอนโซลกลาง พร้อมด้วยมือจับพิเศษสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าขณะลุยทางออฟโรด

เบาะนั่งของ HAVAL H5 ทำจากวัสดุหนังเทียมเกรดพรีเมี่ยมมาพร้อมระบบอุ่นเบาะ ระบบระบายอากาศ และเบาะนวดไฟฟ้า เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ความจุห้องเก็บสัมภาระสำหรับรุ่น 5 ที่นั่ง อยู๋ที่ 791 ลิตร และสามารถพับเบาะแถวที่ 2 เพื่อเพิ่มขึ้นเป็น 1,814 ลิตร

 

ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ระดับที่ 2 มาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยควบคุมตัวรถให้อยู่ภายในเลนและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ระบบตรวจจับสัญญาณจราจรและแจ้งเตือนหากใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด

ระบบควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ที่สามารถสั่งงานได้ด้วยระบบเสียงและผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ โดยสามารถควบคุมหลังคากระจก panoramic ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบนำทาง กระจกหน้าต่างไฟฟ้ารอบคันและการปรับเบาะนั่งไฟฟ้าทั้งหมด

 

ขุมพลังเลือกใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ รหัสเครื่องยนต์ GW4C20B โดยมาพร้อมพละกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะจาก BorgWarner พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Torque-On-Demand (TOD) ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

 

Great Wall Motor วางจำหน่าย Haval H9 ทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ทั้งรูปแบบ 5 และ 7 ที่นั่ง ได้แก่

  • Tanjing Edition ราคา 199,900 หยวน หรือประมาณ 922,507 บาท
  • Tajing Edition ราคา 215,900 หยวน หรือประมาณ 996,718 บาท
  • Jijing Edition ราคา 229,900 หยวน หรือประมาณ 1,061,349 บาท

ที่มา: Carnewschina