เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2024 มีรายงานจากสื่อยานยนต์สัญชาติจีนว่า BYD ได้ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นแต่เพียงผู้เดียวของแบรนด์ Denza หลังจาก Mercedes-Benz ถอนหุ้นออกไปอย่างหมดสิ้น เป็นการปิดฉากความร่วมมือที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2011 เมื่อทั้ง 2 ก่อตั้งบริษัทร่วมทุน Shenzhen Denza New Energy Automobile Co., Ltd โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นคนละ 50% และมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33,245,500 บาท

Denza 400

ผลผลิตรุ่นแรกที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง 2 ค่าย ได้เปิดตัวออกมาในรูปของรถต้นแบบ ซึ่งนำมาจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ 2012 Beijing Auto Show โดยเป็นรถ Hatchback สำหรับครอบครัว ซึ่งได้นำรถ Mercedes-Benz B-Class เจเนอเรชั่นแรก มาพัฒนาต่อยอดเป็นรถ EV ด้วยการเปลี่ยนขุมพลังไปใช้ขุมพลังไฟฟ้าจาก BYD รุ่น e6 ก่อนที่จะเปิดตัวเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงในนาม Denza 400 และ Denza 500

รถรุ่นแรกของค่ายไม่เคยประสบความสำเร็จเลยตั้งแต่เริ่มจำหน่ายจนกระทั่งยกเลิกการทำตลาดในปี 2019 ก่อนที่ Denza จะเปิดตัวรถรุ่นที่ 2 อย่าง Denza X ซึ่งเป็นงานวิศวกรรมที่พัฒนาร่วมกันกับ BYD Tang พร้อมทางเลือกขุมพลัง Plug-in hybrid และ EV ให้เลือก แต่ยังเคลมได้ว่ามีการใช้งานออกแบบจาก Mercedes-Benz ในรถรุ่น Denza X อยู่

N8

แม้จะได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจาก Mercedes-Benz แต่ Denza X ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่คาดหวังไว้ ในเดือนธันวาคม 2021 BYD ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 90% ทำให้ Mercedes-Benz เหลือหุ้นเพียง 10% เท่านั้น นับจากนั้นเป็นต้นมา Mercedes-Benz มีบทบาทเพียงในฐานะผู้ถือหุ้นและไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่อีกต่อไป

D9

ในการปรับโครงสร้างครั้งแรก Denza X ได้ถูกถอนออกจากสายพานการผลิต ได้เปิดตัว Denza D9 MPV ซึ่งมีให้เลือกทั้งเวอร์ชัน PHEV และไฟฟ้าล้วน ในปี 2022 จนสามารถทำยอดขายได้ในที่สุด ต่อเนื่องในปี 2023 Denza เปิดตัว N7 Crossover และ N8 SUV ที่เป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ของ Denza X

Z9 GT

เมื่อต้นปี 2024 Denza ได้ส่งมอบรถคันที่ 200,000 หลังจากเติบโตอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา และกำลังเตรียมส่งมอบ Z9 GT ซึ่งจะตามมาด้วย Z9 Sedan และ N9 SUV ภายในสิ้นปีนี้ โดย Denza จะขยายไลน์อัพเป็น 10 รุ่น และเริ่มรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นโดยเฉพาะในยุโรปและฮ่องกง

ที่มา: Carnewschina