Lotus เปิดตัวรถต้นแบบไฮเปอร์คาร์สานต่อแนวทางการออกแบบจากรถในตำนานอย่าง Esprit ที่มุ่งเน้นการลดน้ำหนักตัวถังขั้นสุด ด้วยการใช้วัสดุที่ล้ำสมัยไม่ว่าจะเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ เส้นใยสังเคราะห์ที่ย่อยสลายได้โดยง่ายมาทำเป็นไฟเบอร์กลาสสำหรับเปลือกตัวถัง รวมไปถึงไทเทเนี่ยม อะลูมิเนียมและยางที่ผ่านกรรมวิธีการรีไซเคิลได้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการพัฒนารถที่เรียกว่า ‘Challenge of 10’ หรือการลดความแตกต่างของวัสดุที่ใช้ผลิตรถทั้งคันจาก 100 แบบ ให้เหลือเพียง 10 แบบเท่านั้น
ชูเทคโนโลยี LOTUSWEAR ที่พัฒนาร่วมกับบริษัท start-up ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ ทำหน้าที่เป็นหุ่นยนต์ผู้ช่วย โดยเลือกใช้คาร์บอนไฟเบอร์สำหรับห้องโดยสาร ขึ้นรูปด้วยกรรมวิธี 3-D Printing เพื่อลดน้ำหนักตัวถังโดยรวมลงเหลือเพียง 1,600 กิโลกรัม อีกทั้งยังร่วมมือกับ Kyocera SLD Laser เพื่อพัฒนาการใช้แสงเลเซอร์สำหรับการส่องสว่างและสร้างบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกตัวรถ เพื่อลดจำนวนหลอดไฟและน้ำหนักของชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็น
ห้องโดยสารโดดเด่นด้วยการจัดรูปแบบที่นั่ง 3 ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้โดยสารทั้งหมดสามารถรับรู้อรรถรสในการขับขี่ได้ไม่แตกต่างกัน พร้อมด้วยการแสดงผลข้อมูลที่ทั่วถึง ทั้งการสั่งงานควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ และการแจ้งเตือนขณะขับขี่ได้อย่างครบครัน
พร้อมด้วยศูนย์ข้อมูลที่ทำงานด้วยชิปประมวลผลจาก Nvidia ติดตั้งหน้าจอ OLED แสดงสถานะของตัวรถที่บริเวณด้านนอก เทคโนโลยีอัดแน่นเกินหน้าเกินตาไฮเปอร์คาร์รุ่นอื่นๆ ได้แก่ เซนเซอร์และเรดาร์ รวมไปถึงกล้องรอบคัน เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมทั้งหมด เครื่องเสียงพรีเมี่ยมจากแบรนด์ในตำนานอย่าง KEF ที่มอบพลังเสียงทั่วถึงสำหรับผู้โดยสารทั้ง 3 ตำแหน่ง รวมไปถึงการตัดเสียงรบกวนเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับฟังมากยิ่งขึ้น
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้พละกำลังสูงสุด 1,000 แรงม้า (PS) มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ภายในเวลา 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 271 กิโลเมตร / ชั่วโมง แบตเตอรี่ความจุ 70 kWh ที่สามารถทำพิสัยการเดินทางได้สูงสุด 400 กิโลเมตร พร้อมโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ Range Tour Sport Individual และ Track
ระบบบังคับเลี้ยวผ่านระบบไฟฟ้าทั้งหมด ที่ปรับแต่งได้อย่างอิสระมากกว่า มอบอัตราการตอบสนองที่ฉับไวยิ่งขึ้น พร้อมด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้วที่คู่หน้า และ 21 นิ้วที่คู่หลัง รัดด้วยยางจาก Pirelli รุ่นพิเศษ P ZERO ELECT ขนาด 265/35 R20 และ 325/ 30 R21 ตามลำดับ ซึ่ง Lotus เคลมว่าสามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้อีก 10% ปิดท้ายด้วยระบบเบรคจาก AP Racing ที่เป็นพาร์ทเนอร์กันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 1967 ประกอบไปด้วยจานเบรคคาร์บอนเซรามิคความแข็งแรงสูงและคาลิปเปอร์แบบอะลูมิเนียม Forged Monoblock
ที่มา: Motor1