ภายหลังจากที่ Volvo ได้ประกาศเป้าหมายการเข้าสู่ยุคของรถ EV ล้วนในปี 2030 ที่จะถึงนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมกับวางแผนเปิดตัวรถ EV จำนวนหลายรุ่นจนกว่าจะถึงปี 2030 และได้เตรียมยกเลิกการจำหน่ายรถเครื่องยนต์สันดาปในรูปแบบ Plug-in hybrid ในช่วงเวลาเดียวกัน

 

ในขณะเดียวกับที่ Volvo ได้ประกาศนโยบายใหม่โดยจะยังวางจำหน่ายรถเครื่องยนต์สันดาปขุมพลัง Plug-in hybrid ต่อไปเมื่อพ้นปี 2030 ภายในงานเปิดตัวของ XC90 รุ่นปรับโฉมครั้งใหญ่เพื่อต่อลมหายใจตอบรับนโยบายใหม่นี้ โดยจะยังใช้งานวิศวกรรมพื้นฐานที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2014 และนับเป็นการปรับโฉมครั้งที่ 2 ของ XC90 เจเนอเรชั่นที่ 2 นี้ หลังจากปรับโฉมครั้งแรกไปเมื่อปี 2019

 

เนื่องด้วยเส้นสายรอบตัวที่มีความเรียบง่ายแต่ทันสมัยไร้กาลเวลา Volvo จึงมีการปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ เพิ่มความสดใหม่ให้ทัดเทียมคู่แข่งรอบโลกได้เป็นอย่างดี เริ่มที่การออกแบบด้านหน้าใหม่หมดจด แต่ยังคงเอกลักษณ์โคมไฟค้อน THOR ไว้อย่างเหนียวแน่น กระจังหน้าขยายขนาดเต็มพื้นที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าทั้ง 2 ขณะที่ช่องด้านข้างของกันชนเปลี่ยนไปใช้รูปทรงแนวตั้ง และติดตั้งช่องดักลมขนาดเรียวยาวที่ด้านล่าง ขณะที่ด้านข้างยังคงไว้ซึ่งเส้นสายเหมือนเดิม ขณะที่ด้านท้ายมีการเปลี่ยนลวดลายไฟท้ายใหม่โดยยังคงไว้ซึ่งรูปทรงของโคมไฟแบบเดิม

 

การเปลี่ยนแปลงภายในนับว่าเป็นการปรับใหญ่ในรอบ 10 ปี โดยได้ถอดหน้าจอแนวตั้งขนาด 9 นิ้ว ออกไป และแทนที่ด้วยหน้าจอขนาด 11.2 นิ้ว ที่มีความละเอียดและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มความหนาแน่นพิ๊กเซลของจอขึ้นอีก 21% แต่ยังน้อยกว่าจอขนาด 14.5 นิ้วของ EX90

 

จอชุดใหม่นี้ยังได้เป็นศูนย์รวมการควบคุมต่างๆ ไว้ที่จุดเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการขับขี่ ข้อมูลตัวรถ และข้อมูลการปรับโหมดการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า พร้อมด้วยการยกระดับคุณภาพของการเก็บเสียงรอบคัน พร้อมด้วยการออกแบบช่องแอร์ใหม่ และการเปลี่ยนวัสดุตกแต่งแผงประตูให้เป็นวัสดุที่นำมาจากวัสดุรีไซเคิล อีกทั้งยังเพิ่มช่องเก็บของที่บริเวณคอนโซลกลาง รวมไปถึงที่วางแก้วออกแบบใหม่ โดยยังมาพร้อมปุ่มหมุนควบคุมระดับเสียงของเครื่องเสียงอยู่เช่นเดิมพร้อมปุ่มไฟฉุกเฉินและระบบไล่ฝ้าอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน ปิดท้ายด้วยแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายตำแหน่งใหม่ โดยจะไม่กินเนื้อที่ช่องว่างแก้วอีกต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม Volvo ได้อุบข้อมูลทางเทคนิคของขุมพลังทั้งหมด แต่จะเน้นไปที่ขุมพลัง plug-in hybrid เป็นหลัก ที่มาพร้อมระยะทางในโหมด EV สูงสุด 70 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP และจะไม่มีทางเลือกขุมพลังดีเซลแต่อย่างใด พร้อมด้วยทางเลือกขุมพลัง mild-hybrid ในบางตลาดโดยเฉพาะยุโรป

ขณะที่ระบบช่วงล่างแบบถุงลมปรับความหนืดตามสภาพถนนผ่านระบบประมวลผลที่แม่นยำและรวดเร็วระดับ 500 ครั้งต่อวิชาที และยังปรับความสูงได้สูงสุด 1.57 นิ้ว และต่ำสุดได้อีก 0.8 นิ้ว จากความสูงมาตรฐาน

 

Volvo จะเปิดรับจอง XC90 Model year 2025 ตั้งแต่วันนี้ที่ยุโรปและจะเริ่มส่งมอบภายในสิ้นปี 2024

ที่มา: Volvo , Motor1