Skoda เตรียมเพิ่มทางเลือกสำหรับพ่อบ้านที่ต้องการรถครอบครัวตกแต่งสปอร์ตยิ่งขึ้น โดยได้เพิ่มทางเลือกรุ่นย่อย Sportline ที่มีให้เลือกครบทั้ง 2 รูปแบบตัวถัง ไม่ว่าจะเป็น Hatchback และ Estate โดยยังไม่มีการปรับปรุงรายละเอียดของขุมพลังแต่อย่างใด 

 

ชุดแต่งรอบคันเริ่มต้นที่กันชนหน้าตกแต่งด้วยสเกิร์ตสีดำ เช่นเดียวกับสเกิร์ตข้างและกันชนหลังที่ติดตั้งดิฟฟิวเซอร์ และยังได้เปลี่ยนวัสดุตกแต่งภายนอกโทรสีเงินให้กลายเป็นสีดำดุดันแทน กระจกหน้าต่างรอบคันเป็นแบบ Privacy glass พร้อมด้วยไฟหน้า LED Matrix และไฟท้ายที่มีฟังก์ชั่นอะนิเมชั่นจากโรงงาน

ล้ออัลลอยมีให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ ขนาด 18 นิ้ว มาตรฐาน และขนาด 19 นิ้ว 2 ลวดลาย ที่มีทั้งแบบปกติและแบบมีฝาครอบซึ่งออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ 

 

ภายในมาพร้อมเบาะนั่งทรงสปอร์ตที่ติดตั้งระบบอุ่นเบาะและระบบเบาะนวดไฟฟ้า รูปทรงเฉพาะรุ่น พร้อมระบบปรับด้วยไฟฟ้า อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากสถาบัน AGR ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านสรีรศาสตร์ พร้อมด้วยโทนสีภายในสีดำ พร้อมด้วยผสมผสานวัสดุระหว่างผ้าลายสปอร์ตและหนังสังเคราะห์ พร้อมด้วยผ้าบุหลังคาสีดำ และวัสดุตกแต่งคอนโซลและแผงประตูลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์ ปิดท้ายด้วยแป้นเหยียบอะลูมิเนียมลายสปอร์ต และป้ายบ่งบอกความพิเศษ Sportline ที่พวงมาลัย

 

หน้าจอแสดงผลความบันเทิงและการเชื่อมต่อขนาด 13 นิ้ว ทำงานร่วมกันกับหน้าจอมาตรวัดสำหรับผู้ขับขี่ขนาด 10 นิ้ว แบบ Virtual Cockpit พร้อมด้วยกราฟิกเฉพาะตัว Sportline พร้อมด้วยไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร พร้อมกระจกหน้าต่างที่ลดเสียงรบกวน 

 

Superb Sportline มาพร้อมทางเลือกขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร eTSI mHEV พร้อมระบบ Mild-Hybrid ให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า รวมไปถึงเครื่องยนต์ดีเซล TDI ความจุ 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า เช่นเดียวกัน ขณะที่รุ่นท๊อปจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินความจุ 2.0 ลิตร TSI พละกำลังสูงสุด 265 แรงม้า 

 

ช่วงล่างแบบสปอร์ตที่ลดความสูงลงอีก 15 มิลลิเมตร จากรุ่นมาตรฐาน ทำงานร่วมกับระบบบังคับเลี้ยวที่มีอัตราทดไวกว่ารุ่นปกติ พร้อมออฟชั่นช่วงล่างแบบปรับระดับความหนืดได้

Skoda ยังได้เตรียมเปิดตัวเวอร์ชั่นตัวแรงขนานแท้อย่าง Superb RS ในฐานะเรือธงของรุ่นในอีกไม่ช้านี้ ซึ่งจะมาพร้อมกับขุมพลัง plug-in hybrid 

ที่มา: Carscoops