ภายหลังที่คณะกรรมาธิการยุโรปดำเนินการออกนโยบายการตั้งกำแพงภาษีนำเข้ารถ EV จากประเทศจีน โดยมีการยื่นขอปรับเปลี่ยนอัตราตามแต่ละค่ายรถยนต์ที่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและจะได้รับการคิดอัตราภาษีแบบพิเศษจากปกติที่ตั้งไว้สูงถึง 36.3% สำหรับค่ายรถยนต์ที่ไม่ให้ความร่วมมือ โดยค่ายรถที่ได้ยื่นความจำนงและได้รับอัตราภาษีใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วได้แก่ BYD Geely SAIC และ Tesla
อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมาธิการยุโรปได้ทำการพิจารณาใหม่อีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2024 ถึงตัวเลขอัตราภาษีดังกล่าว จนมีผลให้ตัวเลขอัตราถูกปรับลดลง ดังนี้
- BYD ลดลงจาก 17.4% เหลือ 17%
- Geely ลดลงจาก 19.9% เหลือ 19.3%
- SAIC ลดลงจาก 37.9% เหลือ 36.3%
- Tesla ลดลงจาก 20.8% เหลือ 9%
สำหรับค่ายรถยนต์อื่นๆ ที่ให้ความร่วมมือไปก่อนหน้าแต่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้ จะได้รับอัตราภาษี 21.3%
การเปลี่ยนอัตราภาษีให้กับ Tesla ส่งผลดีต่อภาพรวมของธุรกิจภายในอย่างมาก เนื่องจากโรงงาน Shanghai นับว่าเป็นกำลังการผลิตหลักให้กับ Model 3 ที่วางจำหน่ายในยุโรปทั้งสิ้น และ Tesla เองก็ถือว่าเป็นผู้ผลิตรถ EV ที่มียอดส่งออกมายังยุโรปมากที่สุด ภายหลังจากที่คณะทำงานของคณะกรรมาธิการยุโรปได้เข้าเยี่ยมชมโรงงาน Shanghai เมื่อเดือนมิถุนายน 2024 เพื่อทำการตรวจสอบและออกกฎเกณฑ์เฉพาะสำหรับค่าย Tesla โดยทำการพิจารณาผ่านตัวเลขเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจีน และเงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะสามารถเคาะตัวเลขอัตราภาษีใหม่ได้
ขณะนี้ยังมีบางค่ายรถยนต์ที่ไม่ได้อัพเดทการยื่นขออัตราภาษีใหม่จากครั้งก่อนหน้า โดยเฉพาะ Spotlight Automotive Limited ที่เป็นโรงงานร่วมทุนระหว่าง BMW และ Great Wall ซึ่งไม่ได้ทำการยื่นขอลดอัตราภาษีแต่อย่างใด รวมไปถึงโรงงานของ Volkswagen Group ที่ผลิต Cupra Tavascan แฝดคนละฝากับ Volkswagen ID.3 ส่งออกไปจำหน่ายที่ยุโรป ก็ยังไม่มีการติดต่อขออัตราภาษีพิเศษจนถึงขณะนี้
สำหรับกำหนดการสุดท้ายของการประกาศใช้อัตราภาษีนำเข้ารถ EV จากประเทศจีนสำหรับยุโรปนี้ จะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมทั้งหมด 27 ท่าน ในเดือนตุลาคม 2024 นี้ หากไม่มีการคัดค้านหรือยื่นแก้ไขใดๆ คาดว่าจะบังคับใช้ได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 เป็นต้นไป
ที่มา: Carnewschina
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ยุโรปเตรียมขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจีน สูงสุด 38.1% โดยอัตราแตกต่างไปในแต่ละแบรนด์
จีนและยุโรปประชุมหารือกัน หาทางออกเรื่องกำแพงภาษีรถยนต์ หลังมีผลแล้วเมื่อ 4 ก.ค.